UT UNUM SINT : เพื่อทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

2.1.1 สิทธิและหน้าที่ของคริสตชนทุกคนคือทั้งสมณะและฆราวาส มีดังต่อไปนี้

        2.1.1.1        มาตรา 208 กล่าวว่า "โดยการเกิดใหม่ในพระคริสต์ คริสตชนทุกคนเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงในศักดิ์ศรีและหน้าที่การงานเพื่อร่วมมือกันสร้างพระกายของพระคริสต์ตามสภาพและหน้าที่ของแต่ละคน"

       2.1.1.2        มาตรา 209 วรรค 1 กล่าวว่า "คริสตชนมีพันธะหน้าที่ต้องรักษาสายสัมพันธ์กับพระศาสนจักรตลอดไป ไม่ว่าจะประกอบกิจกรรมใด ๆ ตามวิถีชีวิตของตน"

      2.1.2.3        มาตรา 209 วรรค 2 กล่าวว่า "คริสตชนต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเอาใจใส่ต่อพระศาสนจักรสากลและต่อพระศาสนจักรเฉพาะถิ่นที่ตนสังกัดอยู่ตามข้อกำหนดของกฎหมาย"

      2.1.1.4        มาตรา 210 กล่าวว่า "คริสตชนทุกคนต้องทุ่มเทพลังตามสภาพของตนเพื่อเจริญชีวิตศักดิ์สิทธิ์ เพื่อส่งเสริมให้พระศาสนจักรเจริญเติบโตและมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง"

      2.1.1.5        มาตรา 211 กล่าวว่า "คริสตชนทุกคนมีหน้าที่และสิทธิในการทำงาน เพื่อให้สารของพระเป็นเจ้าเรื่องความรอดแผ่ไปถึงมนุษย์ทุกคน ทุกยุค ทุกสมัยทั่วพิภพ ยิ่งวันยิ่งมากขึ้น"

      2.1.1.6        มาตรา 212 วรรค 1 กล่าวว่า "คริสตชนที่ตระหนักถึงความรับผิดชอบของตน ต้องมีความนบนอบแบบคริสตชน ปฏิบัติตามสิ่งซึ่งนายชุมพาบาลผู้ศักดิ์สิทธิ์ในฐานะผู้แทนของพระคริสต์ ประกาศกในฐานะอาจารย์ความเชื่อหรือกำหนดในฐานะผู้นำพระศาสนจักร"

      2.1.1.7        มาตรา 212 วรรค 2 กล่าวว่า "คริสตชนมีสิทธิสมบูรณ์ที่จะแสดงความต้องการ โดยเฉพาะในเรื่องฝ่ายจิตและความปรารถนาของตนต่อผู้อภิบาลพระศาสนจักร"

      2.1.1.8        มาตรา 212 วรรค 3 กล่าวว่า "ตามความรู้ ความสามารถและความโดดเด่นที่ตนมี คริสตชนมีสิทธิและยิ่งกว่านั้น ในบางครั้งมีหน้าที่ต้องแสดงความคิดเห็นของตนในเรื่องที่เกี่ยวกับความดีของพระศาสนจักรต่อนายชุมพาบาลผู้ศักดิ์สิทธิ์ และมีสิทธิ์ที่จะบอกความคิดเห็นของตนให้คริสตชนอื่นทราบ โดยคำนึงถึงความครบถ้วยของความเชื่อและศีลธรรมและเคารพต่อผู้อภิบาล และโดยคำนึงถึงความดีต่อส่วนรวมและศักดิ์ศรีของบุคคล"

     2.1.1.9        มาตรา 213 กล่าวว่า "คริสตชนมีสิทธิรับความช่วยเหลือจากผู้อภิบาลศักดิ์สิทธิ์จากขุมทรัพย์ฝ่ายจิตของพระศาสนจักร โดยเฉพาะจากพระวาจาของพระเจ้าและศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ"

      2.1.1.10      มาตรา 214 กล่าวว่า "คริสตชนมีสิทธิถวายคารวกิจแด่พระเป็นเจ้าตามข้อกำหนดของจารีตของตน ซึ่งได้รับการรับรองจากบรรดานายชุมพาบาลที่ถูกต้องของพระศาสนจักรและปฏิบัติตามรูปแบบเฉพาะชีวิตฝ่ายจิตของตนที่สอดคล้องกับคำสั่งสอนของพระศาสนจักร"

     2.1.1.11      มาตรา 215 กล่าวว่า "คริสตชนมีสิทธิเต็มเปี่ยมในการก่อตั้งและบริหารสมาคมอย่างเสรี เพื่อจุดประสงค์ด้านการกุศลหรือเมตตาจิต เพื่อส่งเสริมกระแสเรียกคริสตชนในโลก และเพื่อบรรลุจุดประสงค์ดังกล่าวร่วมกัน"

      2.1.1.12      มาตรา 216 กล่าวว่า "เนื่องจากคริสตชนทุกคนมีส่วนร่วมในพันธะกิจของพระศาสนจักร จึงมีสิทธิสนับสนุนหรือค้ำจุนกิจการการแพร่ธรรมด้วยการริเริ่มของตนเองตามลักษณะและสภาพของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้ชื่อคาทอลิกโดยพลการในการริเริ่มใด ๆ เว้นไว้แต่ว่าจะได้รับความเห็นชอบจากผู้ทรงอำนาจฝ่ายพระศาสนจักรแล้ว"

      2.1.1.13      มาตรา 217 กล่าวว่า "เนื่องจากคริสตชนได้รับเรียกโดยศีลล้างบาปให้ดำเนินชีวิตสอดคล้องกับคำสอนของพระวรสาร จึงมีสิทธิ์ที่จะได้รับการศึกษาแบบคริสตชน เพื่อจะได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมถูกต้อง เพื่อบรรลุถึงวุฒิภาวะของความเป็นบุคคล และในเวลาเดียวกัน เพื่อจะได้รู้และเจริญชีวิตตามรหัสธรรมแห่งความรอด"

      2.1.1.14      มาตรา 218 กล่าวว่า "ผู้ที่ทุ่มเทศึกษาศักดิ์สิทธิ์ มีเสรีภาพอันชอบในการค้นคว้าและในการแสดงความคิดเห็นของตนอย่างรอบคอบในเรื่องที่ตนมีความเชี่ยวชาญ ทั้งนี้โดยต้องให้ความเคารพอันพึงมีต่ออำนาจการสั่งสอนของพระศาสนจักร"

     2.1.1.15      มาตรา 219 กล่าวว่า "คริสตชนทุกคนทีสิทธิ์เลือกวิถีชีวิตของตนอย่างเสรีโดยปราศจากการบีบบังคับใด ๆ"

      2.1.1.16      มาตรา 220 กล่าวว่า "ห้ามผู้ใดทำลายชื่อเสียงที่ดีของผู้อื่นโดย

มิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งห้ามละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นในอันที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของเขา"

     2.1.1.17      มาตรา 221 วรรค 1 กล่าวว่า "คริสตชนสามารถเรียกร้องและป้องกันตนตามนัยของกฎหมายซึ่งสิทธิที่ตนมีในพระศาสนจักร ต่อศาลพระศาสนจักรที่มีอำนาจตามกฎเกณฑ์ของกฎหมาย"

     2.1.1.18      มาตรา 221 วรรค 2 กล่าวว่า "คริสตชนเมื่อถูกเรียกร้องให้รับการตัดสินจากผู้ทรงอำนาจ มีสิทธิ์รับการพิพากษาตามข้อกำหนดกฎหมายที่ต้องใช้ด้วยความเที่ยงธรรม"

     2.1.119       มาตรา 221 วรรค 3 กล่าวว่า "คริสตชนมีสิทธิ์ที่จะไม่ถูกลงโทษด้วยอาญาของพระศาสนจักรเว้นแต่ตามกฎเกณฑ์ของกฎหมาย"

    2.1.1.20      มาตรา 222 วรรค 1 กล่าวว่า "คริสตชนมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในความต้องการของพระศาสนจักร เพื่อให้พระศาสนจักรมีสิ่งจำเป็นสำหรับการประกอบคารวกิจแด่พระเจ้า สำหรับงานแพร่ธรรมและงานเมตตาจิต รวมทั้งเพื่อการดำรงชีวิตที่เหมาะสมของศาสนบริการ"

      2.1.1.21      มาตรา 222 วรรค 2 กล่าวว่า "คริสตชนมีหน้าที่ส่งเสริมความเป็นธรรมทางสังคมและโดยสำนึกถึงคำสั่งสอนของพระคริสต์ มีหน้าที่ช่วยเหลือคนยากจนจากทรัพย์สินของตนด้วย"

      2.1.1.22      มาตรา 223 วรรค 1 กล่าวว่า "ในการใช้สิทธิ์ของตน คริสตชนไม่ว่าโดยส่วนตัวหรือเมื่อรวมกันเป็นสมาคมก็ตาม ต้องคำนึงถึงความดีส่วนรวมของพระศาสนจักรและสิทธิของผู้อื่น รวมทั้งหน้าที่ของตนเองต่อผู้อื่นด้วย"

      2.1.1.23      มาตรา 223 วรรค 2 กล่าวว่า "ผู้ทรงอำนาจฝ่ายพระศาสนจักรมีอำนาจบริหารการใช้สิทธิ์อันเป็นสิทธิ์เฉพาะของคริสตชน โดยมุ่งถึงความดีส่วนรวม"

      2.1.1.24      มาตรา 1282 บอกว่า "ทุกคนไม่ว่าสมณะหรือฆราวาส ซึ่งมีส่วนในการบริหารทรัพย์สินฝ่ายพระศาสนจักรโดยตำแหน่งอันชอบด้วยกฎหมาย ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนในนามพระศาสนจักร ตามกฎเกณฑ์ของกฎหมาย"

      2.1.1.25      กฎหมายมาตรา 1287 วรรค 1 กล่าวว่า "โดยตำหนิ ประเพณีที่ตรงข้าม ผู้บริหารทั้งที่เป็นสมณะและฆราวาส ซึ่งมีหน้าที่บริหารทรัพย์สินฝ่ายพระศาสนจักรใดๆไม่ว่า ที่มิถูกถอนออกจากอำนาจปกครองของพระสังฆราชสังฆมณฑลโดยชอบด้วยกฎหมาย มีหน้าที่ต้องส่งรายงานทุกปีแก่ผู้ใหญ่ผู้ทรงอำนาจท้องถิ่น ซึ่งท่านต้องส่งรายงานแก่คณะที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจเพื่อตรวจสอบ"

  

2.2 บทบาทของคริสตชนทุกคนตามคำสอนของสังคายนาวาติกันที่ 2

 

2.1.1  พระสมณะกฤษฎีกาแห่งสภาสังคายนาว่าด้วยการแพร่ธรรมของฆราวาส (APOSTOLICAM ACTUOSITATEM) บทที่ 2 ข้อ 7 กล่าวว่า "เป็นภาระหน้าที่ของพระศาสนจักรทั้งหมดที่จะต้องทำให้มนุษย์ตีค่าคติโลกอย่างถูกต้อง แล้วชักคติโลกนั้นให้มุ่งไปหาพระเป็นเจ้าโดยอาศัยพระคริสตเจ้า เป็นหน้าที่ของผู้อภิบาลสัตบุรุษจะต้องแถลงอย่างแจ่มแจ้งถึงหลังเกณฑ์ที่เกี่ยวกับจุดหมายการสร้างและการใช้ของของโลกในทางที่ถูกแล้วให้ความช่วยเหลือทางศีลธรรมและทางจิตวิญญาณ เพื่อให้การทางฝ่ายโลกได้รับการฟื้นฟูขึ้นในพระคริสตเจ้า

          ฆราวาสต้องถือว่าการฟื้นฟูคติโลกเป็นหน้าที่เฉพาะของตนเอง ฆราวาสเมื่อรู้เห็นแจ้งโดยอาศัยความสว่างแห่งพระวรสาร และมีจิตตารมณ์ของพระศาสนจักรกับความรักต่อเพื่อนมนุษย์แบบคริสตชนผลักดันไป ก็ต้องลงมือปฏิบัติงานในเรื่องนี้ด้วยตนเองและด้วยใจที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยว ในฐานะพลเมืองฆราวาสร่วมมือกับพลเมืองอื่นๆตามความสามารถพิเศษ โดยรับเอาส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของตนและต้องแสวงหาความยุติธรรมแห่งพระราชัยของพระเป็นเจ้าในที่ทั่วไปและในกิจการทุกอย่าง ต้องฟื้นฟูคติโลกในแบบที่ยังเคารพปฏิบัติให้ถูกกฎเฉพาะของมัน การทางฝ่ายโลกนั้นก็ยิ่งจะต้องตรงกับหลักเกณฑ์อันสูงกว่าของชีวิตแบบคริสตชน และเข้ากับสภาพต่างๆของสถานที่ เวลาและหมู่ชน ในบรรดางานต่างๆของการแพร่ธรรมนี้ งานสังคมของคริสตชนนับเป็นงานที่ดีที่สุด"

 

2.2.2  พระธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักร (LUMEN GENTIUM) ในบทที่ 5 ข้อ 40 กล่าวว่า "สัตบุรุษคริสตชนทุกๆคน ไม่ว่าอยู่ในฐานะอันใดหรืออยู่ในชั้นวรรณะใด เขาทุกคนได้รับการเชื้อเชิญให้มาสู่ความสมบูรณ์ของชีวิตคริสตชนและความครบครันด้วยความรักเมตตาจิต"

 

2.2.3  พระสมณะกฤษฎีการว่าด้วยงานธรรมพูตแห่งพระศาสนจักร (Ad GENTES) บทที่ 6 ข้อ 36 กล่าวว่า "เพราะเหตุนี้ลูกของพระศาสนจักรทุกคนต้องมีความสำนึกอย่างแรงกล้าถึงความรับผิดชอบของตนต่อโลก หล่อเลี้ยงจิตตารมณ์ที่เป็นคาทอลิกอย่างแท้จริงไว้ภายในตนและทุ่มเทกำลังไปในงานเผยแพร่ข่าวดี อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกคนรู้ไว้ว่าหน้าที่ประการต้นและสำคัญที่สุดของตนในการเผยแพร่ความเชื่อก็คือต้องถือชีวิตคริสตชนอย่างแท้จริงนั่นเอง"

บทเทศน์วันอาทิตย์

"ผู้เลี้ยงแกะที่ดี"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024ก.ความสำคัญ 1. อาทิตย์นี้บทอ่านทั้งสามเน้นความรักและพระทัยดีของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์โดยเปรียบเทียบกับผู้เลี้ยงแกะที่ดี ซึ่งคุณลักษณ์ของความรักความห่วงใยนี้สืบทอดมายังบรรดาผู้อภิบาลพระศาสนจักรในปัจจุบัน...
"จำพระองค์ได้ไหม"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2024 ก.ความสำคัญ 1. บทอ่านจากพระคัมภีร์ประจำอาทิตย์นี้เน้นให้เรา...
"ฉลองพระเมตตา"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2024 ก.ความสำคัญ 1. วันอาทิตย์นี้เป็นวันฉลองพระเมตตาของพระเจ้า...

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์และรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลบวช
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2024 เวลา 10.00 น. พระสังฆราชยอห์น ซิลวีโอ วิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และพิธีรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลบวช ณ...
เสกเสาเอก อาคารอนุรักษ์
วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2024 เวลา 09.39 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานวจนพิธีกรรมเสกเสาเอก อาคารอนุรักษ์ "วัดพระหฤทัย" วัดบ้านเณร บ้างช้าง-บางนกแขวก...
วันอาทิตย์ (ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2024 เวลา 09.00 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์ (ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า ณ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด...
ฉลองวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2024 เวลา 10.30 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสฉลองชุมชนแห่งความเชื่อวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า จ.ราชบุรี ภาพ-ข่าวโดย สื่อมวลชนคาทอลิกสังฆมณฑลราชบุรี...
ฉลองวัดพระวิสุทธิวงศ์ แพรกหนามแดง
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา...
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้ง คุณพ่อเปาโลธวัช สิงห์สา เป็นพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลราชบุรีร่วมโมทนาคุณพระเจ้าและแสดงความยินดีกับสังฆมณฑลนครสวรรค์โอกาสที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งคุณพ่อเปาโลธวัช สิงห์สาเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์ประกาศ ณ วันที่ 13...

ประกาศสำนักพระสังฆราช

ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่
ที่ สร.037/2024ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่...
ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง อนุญาตให้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
ที่ สร.112/2023ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง อนุญาตให้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง การแต่งตั้งและยืนยันตำแหน่งหน้าที่
ที่ สร.091/2023ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง การแต่งตั้งและยืนยันตำแหน่งหน้าที่

คาทอลิกไทย "รวมพลังรักษ์โลก" ค.ศ.2024-2025

คาทอลิกไทยรวมพลังรักษ์โลก ค.ศ.2024-2025

สารสังฆมณฑลราชบุรี

สารสังฆมณฑลราชบุรี ปีที่ 37 ฉบับที่ 3 เดือนมกราคม-เมษายน 2024

เล่า หลัง วัด

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

ปกิณกสาระพิธีกรรม

พ่อบูรณ์พ่อบู๊ชวนคุย

ความปีติยินดีแห่งความรัก

การปกป้องคุ้มครองนักเรียนฯ

นโยบายและแนวปฏิบัติในการปกป้องคุ้มครองนักเรียน โรงเรียน/สถานศึกษาสังกัดสังฆมณฑลราชบุรี

เพื่อนร่วมทาง

สถานที่อบรม-สัมมนา

ศูนย์ภาวนา"ทาบอร์" จ.กาญจนบุรี
บ้าน"เย็นเนซาเร็ธ" จ.เพชรบุรี
ค่ายลูกเสือดรุณาเฉลิมพระเกียรติบ้านพระหฤทัย บางนกแขวก