ข.พระคัมภีร์และคำสอน

    1.บทอ่านที่หนึ่ง (กจ. 9:26-31) กิจการอัครสาวกได้บอกให้เรารู้ว่าบรรดาอัคสาวกได้ทำงานได้อย่างบังเกิดผลเนื่องมาจากพวกเขามีจิตที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระคริสต์ผู้ทรงกลับฟื้นคืนชีพ บทอ่านยังบอกเราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขัดเกลาอดีตฟารีสีที่จิตใจแข็งกระด้างอย่างเซาโลผู้เบียดเบียนกลับมาเป็นเปาโลสานุศิษย์ผู้เข้มแข็ง และทำหน้าที่ประกาศข่าวดีได้อย่างบังเกิดผล

    2.บทอ่านที่สอง (1ยน. 3:18-24) นักบุญยอห์นอธิบายเรื่องความสนิทชิดเชื้อกับพระคริสต์ด้วยความเชื่อเท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถนบนอบเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้าได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบัญญัติแห่งความรัก รักกันและกันเหมือนที่พระเจ้าทรงรักเรา

    3.พระวรสาร (ยน. 15:1-8) นำมาจากบทเทศน์ของพระเยซูในขณะที่รับอาหารค่ำครั้งสุดท้ายกับศิษย์ พระเยซูทรงใช้ภาพลักษณ์ของต้นองุ่นและกิ่งก้านเพื่อช่วยศิษย์ให้เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างพระองค์กับพวกเขา ชีวิตที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เหมือนกับลำต้นกับกิ่งก้าน ซึ่งก็เป็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวเราแต่ะคนกับพระองค์ด้วย

ค.ปฏิบัติ

    1. “ตัดแต่งกิ่ง” ต้นองุ่นและผลไม้อื่น ๆ ถ้าจะให้เกิดผลดีจะต้องมีตัดแต่งกิ่ง ชีวิตคริสตชนก็เช่นกัน เราต้องตัดแต่งชีวิตของเรา การกระทำอะไรที่ตรงกันข้ามคำสอนของพระเยซูเจ้า หรือไม่ทำให้ชีวิตของเราก้าวหน้า เช่น การเห็นแก่ตัว การเกียจคร้าน การดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น เราจะต้องลิดหรือตัดออกไป นอกจากนั้นเราจะต้องรู้จักควบคุมตนเองไม่ให้ไปยึดติดกับนิสัยที่ไม่ดีเหล่านั้น  
    2. “ยึดต้นกับลำต้น” คือ การมีชีวิตที่ยึดติดกับพระคริสต์เจ้า ด้วยการภาวนาและการร่วมพิธีกรรมทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เป็นต้นในการร่วมพิธีมิสซาในวันอาทิตย์ การรับศีลอภัยบาป การอ่านพระคัมภีร์