UT UNUM SINT : เพื่อทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน


           2. คำสัญญาของพระเจ้าเรื่องการส่งพระจิตลงมานี้ไม่ใช่เรื่องที่บรรดาสาวกของพระเยซูเจ้าหรือบรรดาชาวยิวจะไม่รู้มาก่อน เพราะว่าพวกเขาต่างมีความรู้ในพระคัมภีร์มาอย่างดีกันแล้ว พูดได้ว่าคำสัญญานี้เราพบมาตั้งแต่พันธสัญญาเดิมจากหนังสือของเยเรมีย์และเอเซเคียล ในยุคสมัยของบรรดาประกาศก พระเจ้าทรงสัญญาจะทำพันธสัญญาใหม่กับประชากรของพระองค์(ยรม.31:31) พระองค์ทรงสัญญาว่า “เราจะใส่ธรรมบัญญัติของเราไว้ภายในเขา เราจะเขียนธรรมบัญญัติไว้ในใจของเขา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา” (ยรม.31:33) พระองค์ทรงสัญญาจะให้ใจใหม่แก่เขา พระองค์จะใส่จิตใหม่ไว้ในเขา จะนำใจหินออกไปจากร่างกายของเขา และจะให้ใจเนื้อแก่เขา(อสค. 11:19, 18:31, 36:26) และที่สุด พระเจ้าได้ทรงสัญญาที่จะใส่จิตของพระองค์เองภายในเรา ซึ่งจะทำให้เราดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดของพระองค์ เราจะรักษาและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์(อสค. 36:27) และจากพระคัมภีร์นี้เองที่ทำให้เราทราบว่าคำสัญญาของพระเจ้านั้นได้เกิดขึ้นจริง เป็นความจริง ดั่งความจากบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงโครินธ์ฉบับที่ 1 ที่ว่า "ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า พระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน”  [1 คร. 3:16]

          3. เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่า "ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา”(ยน.14:15) พระองค์ทรงยินยันอีกครั้งหนึ่งถึงพระวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ที่ว่า "ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง ท่านจะรู้ความจริง และความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ” (ยน. 8:31-32)

            4. พระเยซูเจ้ายังทรงตรัสต่อไปว่า "และเราจะวอนขอพระบิดา แล้วพระองค์จะประทานผู้ช่วยเหลืออีกองค์หนึ่งให้ท่าน เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป" (ยน.14:16) ทำไมพระองค์จึงตรัสถึง “พระผู้ช่วยเหลือ”  อีกองค์หนึ่ง ในบทจดหมายของนักบุญยอห์นฉบับที่ 1 กล่าวว่า "ลูกที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป ถ้าใครทำบาป เรายังมีทนายแก้ต่างให้เฉพาะพระพักตร์ของพระบิดา คือ พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเที่ยงธรรม"(1 ยน.2:1) ดังนั้นพระเยซูเจ้าจึงทรงเป็น “พระผู้ช่วยเหลือพระองค์แรก” พระจิตเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยเหลือพระองค์ที่สอง คำว่าพระผู้ช่วยเหลือ มีความหมายถึง “การเป็นผู้ช่วย” หรือ “การเป็นคนกลาง”

           5. พระเจ้าทรงส่งพระจิตเจ้ามาเพื่ออะไร ในพระวรสารของนักบุญยอห์น 14:26 เราได้เรียนรู้ว่าพระจิตเจ้าถูกส่งลงมาเพื่อสอนความจริงทุกสิ่งทุกอย่างแก่เรา และทรงทำให้เราเข้าใจคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ทรงให้กับบรรดาสานุศิษย์ ในยอห์น 15:26 เราทราบว่าพระจิตเจ้าเสด็จมาเพื่อเป็นพยานให้แก่เรา และใน ยอห์น 16:7-14 เราได้เรียนรู้ว่าจุดประสงค์ของการเสด็จมาของพระจิตก็คือ พระองค์จะทรงพิสูจน์ให้โลกเห็นความหมายของบาป ของความถูกต้องและของการตัดสิน เพราะบาปของโลกคือการไม่ได้เชื่อในพระองค์ 

           6. พระเยซูเจ้าทรงสอนสานุศิษย์หลายสิ่งหลายอย่าง แต่ในขณะนั้นพวกเขายังไม่สามารถเข้าใจได้หมด จนกระทั่งพระจิตแห่งความจริงถูกส่งลงมาเพื่อนำทางพวกเขาให้เข้าใจทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้ทรงสอนและได้ทรงกระทำ ทั้งนี้เพราะพระจิตเจ้าทรงบอกทุกสิ่งที่พระองค์ได้รับมา พระองค์ทรงถวายเกียรติพระเยซู เพราะพระองค์ทรงนำทุกสิ่งของพระเยซูเจ้ามาเปิดเผยให้แก่เรามนุษย์

          7. เมื่อเราพูดว่าพระจิตเจ้าทรงเป็น “พระจิตแห่งความจริง” ทำให้เรารับรู้ถึงบทบาทของพระองค์อีกด้านหนึ่งก็คือ การเป็นทนาย หรือผู้รับรอง ในบทบาทของการเป็น “พระจิตแห่งความจริง” พระองค์ทรงนำพระศาสนจักรให้สามารถดำเนินไปในความจริง เมื่อเราพูดว่า พระจิตเจ้าทรง “พำนัก” อยู่กับเรา จึงหมายความว่า พระจิตเจ้าทรงพำนักอยู่ในพระศาสนจักรและพำนักอยู่ในตัวของเราแต่ละคนด้วย พระจิตเจ้าทรงพำนักอยู่ในพระศาสนจักรที่พระเยซูเจ้าทรงก่อตั้งขึ้น พระจิตเองทรงพำนักอยู่กับเราแต่ละคนผู้ซึ่งเป็นวิหารของพระจิตเจ้า(1คร.3:16) เพราะว่าสมาชิกของพระศาสนจักรทุกคนต่างเป็นศิลาที่มีชีวิตที่กำลังถูกสร้างขึ้นเป็นวิหารของพระจิตเจ้า”(1ปต. 2:5) ซึ่งมีพระเยซูเจ้าทรงเป็น “ศิลาหัวมุม” และ “ทุกคนที่มีความเชื่อในศิลานี้จะไม่ต้องอับอายเลย” (1ปต. 2:6)

           8. พระเยซูเจ้าทรงสัญญาว่าพระองค์จะไม่ทิ้งเราให้เป็นกำพร้า(ยน.14:18) หมายความว่าพระองค์จะเสด็จมาหาเราอีก แต่บางคนอาจจะถามว่า “แล้วจะมาอย่างไร” เราจะมองเห็นพระองค์ได้อย่างไร การเสด็จมาของพระจิตเจ้าในโลกนี้ก็เป็นการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าและพระบิดาเจ้า เพราะทุกพระองค์ต่างร่วมส่วนกันในพระตรีเอกภาพ เพราะพระบิดาพำนักอยู่ในพระเยซูและพระเยซูทรงพำนักอยู่กับพระบิดา(ยน. 14:20)

           9. พระเยซูเจ้าตรัสกับสานุศิษย์ของพระองค์ว่า "ในไม่ช้า โลกจะไม่เห็นเรา แต่ท่านทั้งหลายจะเห็นเรา เพราะเรามีชีวิต และท่านก็จะมีชีวิตด้วย” (ยน. 14:19) หมายความว่าอย่างไร ...หมายความว่าบุคคลที่เดินอยู่ในความมืด บุคคลที่ขาดความเชื่อ บุคคลที่ปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระเยซูเจ้า จะไม่มีชีวิตของพระเจ้าในตัวของเขาเหล่านั้น แต่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้าจะมีชีวิตที่สนิทอยู่ในพระตรีเอกภาพ

         10. พระวาจาของพระเจ้าที่เราได้รับฟังในวันนี้ที่ว่า "ผู้ที่มีบทบัญญัติของเราและปฏิบัติตาม ผู้นั้นรักเรา และผู้ที่รักเรา พระบิดาของเราก็จะรักเขา และเราเองก็จะรักเขา และจะแสดงตนแก่เขา” (ยน. 14:21) ทำให้เราเรียนรู้เงื่อนไขของการมีส่วนในชีวิตของพระเจ้า นั้นก็คือเราต้องมีส่วนในความรักและการนอบน้อมต่อพระเยซูเจ้า มีความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ นั้นคือการปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ทรงสั่งสอนอย่างดีนั้นเอง

        11. พี่น้องที่รัก ไม่มีใครจะเข้ารับสมบัติสวรรค์ได้โดยอาศัยเพียงแต่ความรู้เท่านั้น ใครก็ตามที่จะได้รับสมบัติสวรรค์ คนๆนั้นจะต้องนำเอาความรู้มาสู่ชีวิต คำพูดจะบินหายไป แต่การกระทำจะคงอยู่ตลอดไป

       12. บทอ่านที่หนึ่งซึ่งมาจากกิจการอัครสาวกได้พูดถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่บรรดาอัครสาวกได้ประทานพระจิตเจ้าให้กับชาวสะมาเรีย การยอมรับพระเยซูเจ้าว่าทรงเป็นพระผู้ไถ่ที่เสด็จมาตามพระสัญญา ทำให้ชาวสะมาเรียได้รับพระจิตเจ้าโดยผ่านทางการปกมือของบรรดาอัครสาวกเปโตรและยอห์น

        13. ทุกๆครั้งที่เรามีพิธีโปรดศีลล้างบาปและศีลกำลัง ในพิธีนั้นเป็นช่วงเวลาสำคัญของชีวิต เพราะเราได้รับพระจิตเจ้า ซึ่งทำให้เราไม่โดดเดียวหรือเป็นกำพร้าอีกต่อไป แต่เรามีพระจิตเจ้าพำนักอยู่ในเรา ทรงเป็นผู้นำทางเรา ชี้แนะเรา ปลอบโยนเรา และประทานพลังกำลังให้แก่เราในยามที่เรามีปัญหาหรือมีอุปสรรคต่างๆในชีวิต

        14. พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับเราแล้วว่า พระองค์จะไม่ทรงทิ้งเราให้เป็นกำพร้า นี้เป็นความอบอุ่นใจสำหรับเราคริสตชนทุกคน ที่พระองค์ทรงรักเรา ห่วงใยเราทุกคน พระองค์ทรงเปิดประตูต้อนรับเราทุกคนให้เป็นบุตรของพระเจ้า และเพราะเราเป็นบุตรนี้เองจึงทำให้เราได้รับพระจิตเจ้าเป็นของประทานที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเรา เราสามารถเรียกพระเจ้าว่าเป็น “พ่อ” ได้อย่างเต็มปากและเต็มศักดิ์ศรี เราไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกล ไม่ได้เป็นทาสหรือคนรับใช้ แต่เราเป็นทายาทแห่งเมืองสวรรค์(กท.4:6) ดังนี้จึงขอให้พระหรรษทานของพระเจ้าประทับอยู่กับเราทุกคนตลอดไป เป็นต้นในสัปดาห์นี้ ขอพระจิตเจ้าประทานความสว่างให้กับสติปัญญาของเรา เพื่อให้เราเข้าใจคำสอนของพระองค์ได้อย่างถ่องแท้และคำเอาคำสอนของพระองค์นั้นไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างดี สมกับการเป็นทายาทของพระองค์

 



บทเทศน์วันอาทิตย์

"ผู้เลี้ยงแกะที่ดี"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024ก.ความสำคัญ 1. อาทิตย์นี้บทอ่านทั้งสามเน้นความรักและพระทัยดีของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์โดยเปรียบเทียบกับผู้เลี้ยงแกะที่ดี ซึ่งคุณลักษณ์ของความรักความห่วงใยนี้สืบทอดมายังบรรดาผู้อภิบาลพระศาสนจักรในปัจจุบัน...
"จำพระองค์ได้ไหม"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2024 ก.ความสำคัญ 1. บทอ่านจากพระคัมภีร์ประจำอาทิตย์นี้เน้นให้เรา...
"ฉลองพระเมตตา"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2024 ก.ความสำคัญ 1. วันอาทิตย์นี้เป็นวันฉลองพระเมตตาของพระเจ้า...

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์และรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลบวช
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2024 เวลา 10.00 น. พระสังฆราชยอห์น ซิลวีโอ วิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และพิธีรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลบวช ณ...
เสกเสาเอก อาคารอนุรักษ์
วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2024 เวลา 09.39 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานวจนพิธีกรรมเสกเสาเอก อาคารอนุรักษ์ "วัดพระหฤทัย" วัดบ้านเณร บ้างช้าง-บางนกแขวก...
วันอาทิตย์ (ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2024 เวลา 09.00 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์ (ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า ณ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด...
ฉลองวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2024 เวลา 10.30 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสฉลองชุมชนแห่งความเชื่อวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า จ.ราชบุรี ภาพ-ข่าวโดย สื่อมวลชนคาทอลิกสังฆมณฑลราชบุรี...
ฉลองวัดพระวิสุทธิวงศ์ แพรกหนามแดง
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา...
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้ง คุณพ่อเปาโลธวัช สิงห์สา เป็นพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลราชบุรีร่วมโมทนาคุณพระเจ้าและแสดงความยินดีกับสังฆมณฑลนครสวรรค์โอกาสที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งคุณพ่อเปาโลธวัช สิงห์สาเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์ประกาศ ณ วันที่ 13...

ประกาศสำนักพระสังฆราช

ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่
ที่ สร.037/2024ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่...
ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง อนุญาตให้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
ที่ สร.112/2023ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง อนุญาตให้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง การแต่งตั้งและยืนยันตำแหน่งหน้าที่
ที่ สร.091/2023ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง การแต่งตั้งและยืนยันตำแหน่งหน้าที่

คาทอลิกไทย "รวมพลังรักษ์โลก" ค.ศ.2024-2025

คาทอลิกไทยรวมพลังรักษ์โลก ค.ศ.2024-2025

สารสังฆมณฑลราชบุรี

สารสังฆมณฑลราชบุรี ปีที่ 37 ฉบับที่ 3 เดือนมกราคม-เมษายน 2024

เล่า หลัง วัด

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

ปกิณกสาระพิธีกรรม

พ่อบูรณ์พ่อบู๊ชวนคุย

ความปีติยินดีแห่งความรัก

การปกป้องคุ้มครองนักเรียนฯ

นโยบายและแนวปฏิบัติในการปกป้องคุ้มครองนักเรียน โรงเรียน/สถานศึกษาสังกัดสังฆมณฑลราชบุรี

เพื่อนร่วมทาง

สถานที่อบรม-สัมมนา

ศูนย์ภาวนา"ทาบอร์" จ.กาญจนบุรี
บ้าน"เย็นเนซาเร็ธ" จ.เพชรบุรี
ค่ายลูกเสือดรุณาเฉลิมพระเกียรติบ้านพระหฤทัย บางนกแขวก