ในปีแรกหลังวันฉลองพระจิตเสด็จลงมา มีชาวยิวที่เข้ามาเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพรผู้ไถ่บาปและดังนั้นพระศาสนจักรในยุคแรกๆ จึงเป็นพระศาสนจักรของบรรดาชาวยิว แต่ต่อมา น.เปาโลเริ่มเทศนาให้กับประชาชนที่ไม่ใช่ชาวยิว หรือที่เรียกว่าคนต่างชาติต่างศาสนา (Gentiles) คำเทศนาของท่านได้ผลมากและ น.เปาโลได้นำคนที่ไม่ใช่ชาวยิวมาเป็นสมาชิกในพระศาสนจักรจำนวนมาก ทั้งสองท่านได้มีบทบาทสำคัญมากในยุคแรก เปโตรทำให้พระศาสนจักรมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวกัน ในช่วงชีวิตของท่านได้ทำการเผยแผ่คำสอนของพระเยซูไปทั่วตะวันออกกลางและยุโรป ส่วน น.เปาโลผู้สอนว่าชาวยิวว่าพระเยซูทรงมาทำให้ความหวังในคำสัญญาจากพันธสัญญาเดิมสำเร็จบริบูรณ์ และสอนคนที่ไม่ใช่ชาวยิวว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ไถ่บาป หรือเป็นผู้นำความรอดมาให้มนุษย์ทุกคน ดังนั้นเรามักจะเห็นรูปของทั้งสองท่านตั้งเคียงคู่กันเสมอ น.เปโตรถือกุญแจเพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าของพระศาสนจักร และ น.เปาโลถือพระคัมภีร์และดาบเพื่อแสดงว่าท่านเป็นผู้ประกาศข่าวดีและจะต้องอุทิศชีวิตอย่างไร

ข. พระคัมภีร์และคำสอน
2. บทอ่านที่หนึ่งเล่าให้เราฟังถึงอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับ น.เปโตรขณะที่ท่านถูกจับติดคุก พระเจ้าทรงส่งมีทูตสวรรค์มาช่วยท่านให้เป็นอิสระ

3. บทอ่านที่สองเล่าถึงชีวิตของ น.เปาโลที่ต้องได้รับความทุกข์ยากลำบากด้วยเหตุเภทภัยต่างๆ แต่ท่านก็เอาตัวรอดมาได้เสมอ ท่านสำนึกว่าพระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างท่านเพื่อให้ท่านได้ทำหน้าที่ประกาศข่าวดีให้กับคนต่างชาติต่างศาสนา

4. บทพระวรสารบอกเราให้รู้ว่า น.เปโตรเป็นบุคคลสำคัญในพระวัติศาสตร์ของคริสตชน ท่านได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า “พระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า(ผู้รับเจิมแต่งตั้ง) พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” และพระเยซูเจ้าทรงบอก น.เปโตรว่า “ท่านเป็นศิลา และบนศิลานี้พระองค์จะตั้งพระศาสนจักรของพระองค์”

5. ถ้าเราอ่านพันธสัญญาใหม่จะเห็นได้ว่า น.เปโตรแสดงตนเป็นแบบมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีความผิดพลาดต่างๆมากมาย แต่เป็นบุคคลที่จริงใจและรักพระเยซูเจ้ามาก ยอมตายเพื่อพระเยซูเจ้าได้

6. ส่วนชีวิคของ น.เปาโล เป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพที่ซับซ้อน เข้มแข็ง ร้อนร้น ใช้ความร้อนแรงของตนในการเบียดเบียนคริสตชนในยุคแรก แต่เมื่อได้รับการเรียก ท่านได้ใช้ความเข้มข้นนี้ในการประกาศข่าวดีของพระเยซู

ค. ปฏิบัติ
7. “ทุกคนต่างมีพระพร” เราแต่ละคนที่ได้มาเป็นศิษย์พระคริสต์ เราอาจจะมีบุคลิกภาพและความสามารถที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนต่างรับใช้พระเจ้าในการประกาศข่าวดีให้แก่คนอื่นๆได้รับรู้ ทั้งด้วยแบบอย่างที่ดี และคำแนะนำ เราแต่ละคนสามารถนำความรักความห่วงใยของพระเจ้าไปมอบให้ผู้อื่นได้เสมอ ทุกเวลา

8. “เคารพในความแตกต่าง” เมื่อแต่ละคนต่างมีคุณงามความดี เราต้องเคารพและร่วมมือกันทำงาน ทำงานเป็นหมู่คณะ ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ต่อว่ากัน และเสริมกำลังใจให้กันและกัน

9. “สร้างความเป็นหนึ่งเดียวเหมือน น.เปโตร ร้อนรนในการประกาศเหมือน น.เปาโล”