2. ท่านทั้งสองมีความสำคัญด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน น.เปโตรมีความสำคัญเพราะว่าท่านเป็นสันตะปาปาองค์แรกและสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับพระศาสนจักรในยุคนั้นและทำให้พระศาสนจักรได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากวันที่พระจิตเสด็จลงมา(Pentecost)ในปีแรกๆ หลังจากวันพระจิตเสด็จลงมาคนที่หันมานับถือพระเยซูส่วนใหญ่เป็นชาวยิวพวกเขายอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ไถ่บาปดังนั้นพระศาสนจักรในยุคแรกจึงเป็นพระศาสนจักรชาวยิวแต่เมื่อเวลาผ่านไป น.เปาโลเริ่มเทศนาให้กับคนที่ไม่ใช่ชาวยิว ที่เรียกว่าคนต่างศาสนา(Gentiles)การเทศน์ของท่านบังเกิดผลอย่างมากมาย ท่านได้นำคนที่ไม่ใช่ชาวยิวเข้ามาเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรจำนวนมาก ดังนั้นทั้ง น.เปโตรและ น.เปาโลต่างมีบทบาทที่สำคัญของพระศาสนจักรในยุคเริ่มแรก น.เปโตรช่วยทำให้พระศาสนจักรมีความเป็นหนึ่งเดียวและตลอดชีวิตของท่านได้เผยแพร่ความเชื่อศรัทธาในพระเยซูไปตลอดทั้งตะวันออกกลางและยุโรป ส่วน น.เปาโลสอนชาวยิวว่าพระเยซูทรงทำให้ความหวังในพันธสัญญาเดิมเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และสอนคนที่ไม่ใช่ชาวยิวว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ไถ่บาป ของเรา ดังนั้นเมื่อเราเห็นรูปปั้นของท่านที่ใด เรามักจะเห็นรูปของ น.เปโตรถือกุญแจ เป็นสัญลักษณ์ถึงหน้าที่การเป็นหัวหน้าของพระศาสนจักร และ น.เปาโลถือพระคัมภีร์ เป็นสัญลักษณ์ของการเทศนา

ข.พระคัมภีร์และคำสอน    
       1.บทอ่านที่หนึ่ง (กจ12:1-11) เราได้ทบทวนเหตุการณ์ที่ น.เปโตรและสมาชิกของพระศาสนจักรถูกเบียดเบียนอย่างหนักในสมัยของกษัตริย์เฮโรดท่ามกลางความยากลำบาก สมาชิกของพระศาสนจักรได้ร่วมใจกันภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อท่าน ที่สุดพระเจ้าทรงช่วยเหลือ น.เปโตรให้รอดพ้นจากการจองจำอย่างน่าอัศจรรย์
       2.บทอ่านที่สอง (2ทธ4:6-8,17-18) เราได้รับรู้ชีวิตการทำงานที่ยากลำบากของ น.เปาโลท่านสารภาพว่าท่ามกลางความยากลำบากจนต้องเอาชีวิตเข้าแลกนั้น ท่านยังคงรักษาความเชื่อไว้อย่างมั่นคง ทั้งนี้เพราะพระเจ้าทรงยืนเคียงข้างและประทานกำลังให้
       3.พระวรสาร (มธ16:13-19)หลังจากที่พระเยซูเจ้าทรงร่วมงานกับบรรดาศิษย์มาเป็นเวลานาน พระองค์ทรงตรวจสอบความเชื่อของพวกเขา โดยถามว่า “ท่านคิดว่าเราเป็นใคร” คำตอบของ น.เปโตรศิษย์ที่เป็นชาวประมงธรรมดาๆ เป็นที่พอพระทัย พระองค์จึงทรงมอบหมายตำแหน่งผู้นำของพระศาสนจักรให้

ค. ปฏิบัติ              
          1. “เราทุกคนรับใช้พระเจ้าได้” พระศาสนจักรต้องการบุคคลที่มีความสามารถหลายหลากและแตกต่างกันมาเสริมเติมเต็มงานของพระศาสนจักร เราต้องการคนที่นิ่ง รอบคอบ อย่าง น.เปโตร ในเวลาเดียวกัน เราต้องการคนที่กล้าหาญ รวดเร็ว อย่าง น.เปาโล เราต้องการคนที่ชอบอยู่กับบ้าน ในเวลาเดียวกันเราก็จำเป็นต้องมีคนที่ออกไปทำงานนอกบ้านน.เปโตรใช้ความรักที่ยิ่งใหญ่ในการอภิบาลดูแลสมาชิกให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ส่วน น.เปาโลใช้การที่ได้รับการฝึกอบรมในฐานะที่เป็นฟาริสีและความเข้มแข็งออกไปประกาศข่าวดีกับคนต่างชาติต่างศาสนา และนำเข้ามาเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร
           2. “อดีตไม่เป็นไร” ทั้ง น.เปโตรและ น.เปาโล ต่างมีความผิดพลาด คนหนึ่งเคยปฏิเสธถึงสามครั้งว่าไม่รู้จักพระเยซูเจ้า อีกคนหนึ่งเคยเบียดเบียนคนที่นับถือพระเยซู ดังนั้นอดีตเราอาจจะไม่ได้สนใจที่จะมารับใช้พระเจ้า หรือเห็นว่าตนเองไม่เหมาะสม วันนี้จึงเตือนใจเราว่าไม่ว่าเราจะเป็นใคร หรือเคยผิดพลาดอะไรมาก่อน แต่เวลานี้เราสามารถเข้ามารับใช้พระเจ้าได้เราเราสามารถใช้ทั้งพรสวรรค์และความอ่อนแอของเราเป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการรับใช้ผู้อื่นได้ ถ้าเรายินยอม ไม่มีใครดีสมบูรณ์แบบ แต่พระเจ้าทรงทำงานโดยผ่านเรา เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงใช้ น.เปโตรและ น.เปาโล
           3.“อย่ากลัว” ที่จะตอบรับคำเชิญให้มาทำงานเพื่อพระเจ้า พระทรงช่วยผู้ที่ทำงานให้พระองค์เสมอ การทำงานรับใช้พระเจ้าไม่ใช่จะราบรื่น แต่พระเจ้าจะทรงช่วยเรา เหมือนที่ทรงช่วย น.เปโตร ออกจากคุก และทรงอยู่เคียงน.เปาโลในยามที่ท่านต้องลำบาก