ข้อคิดวันอาทิตย์ โดย คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
ข่าวดีวันอาทิตย์พระทรมานของพระเยซูเจ้า (5 เมษายน 2020)
การต้อนรับและการทรยศ
ก. ความสำคัญ
            1. พระศาสนจักรฉลองสัปดาห์ที่หกเทศกาลมหาพรต ด้วยสองเหตุการณ์ คือ การแห่ใบลานและอาทิตย์พระทรมาน ตลอดสัปดาห์นี้เราเรียกว่า “สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเราไม่ได้แค่ระลึกถึงความตายและการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าเท่านั้น แต่เป็นความตายและการกลับคืนชีพของเราด้วย เหตุการณ์แห่งพระทรมานของพระเยซูนำมาซึ่งการบำบัดรักษาบาดแผลจากบาป ทำให้เราได้กลับคืนดี และได้รับความรอดพ้นสู่สวรรค์ในชีวิตของเรา


             2. การเข้ามีส่วนร่วมในพิธีกรรมสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้ (แม้ปีนี้จะเป็นทางออนไลน์) จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าสนิทแนบแน่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มพูนความเชื่อและทำให้ชีวิตแห่งการเป็นศิษย์ของพระคริสต์เข้มแข็งยิ่งขึ้น

              3.พิธีกรรมวันนี้รวมสองช่วงเวลาที่แตกต่างกัน หนึ่งเป็นเกียรติยศ เป็นความยินดี อีกด้านหนึ่งเป็นการทรมาน นั้นคือการต้อนรับด้วยความจงรักภักดีเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มและช่างเวลาแห่งการทดลอง ถึงขั้นสุดท้ายคือการถูกทรมาน ถูกตรึงบนไม้กางเขน สิ้นพระชนม์และการถูกฝังไว้ในคูหา

ข.พระคัมภีร์และคำสอน           
        1.บทอ่านที่หนึ่ง (อสย 50:4-7) ประกาศกอิสยาห์ได้พยากรณ์ล่วงหน้าถึงชีวิตในช่วงที่ต้องทนทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้า
        2. บทอ่านที่สอง (ฟป 2:6-11) นักบุญเปาโลได้เขียนถึงชาวฟิลิปปี เป็นบทภาวนาสรรเสริญที่เก่าแก่สะท้อนถึงความเชื่อและความเข้าใจว่าพระเยซูเจ้าคือใคร และพระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากบาปและความตายได้อย่างไร
        3.พระวรสาร (มธ 27:11-54) วันนี้พระวรสารแบ่งออกเป็นสองภาค ภาคแรกบรรยายถึงการต้อนรับพระเยซูเจ้าด้วยความจงรักภักดีเช่นกษัตริย์ ประชาชนเดินพาเหรดตามพระองค์เป็นระยะทางสองไมล์ จากภูเมะกอกถึงกรุงเยรูซาเล็ม ภาคที่สอง เราได้รับฟังเรื่องพระทรมานของพระเยซูเจ้าตามการบันทึกของนักบุญมัทธิว เราได้รับการท้าทายให้ตรวจสอบการดำเนินชีวิตของเราตามเรื่องพระทรมานที่เรารับฟัง เช่น นักบุญเปโตรที่ปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระเยซู ยูดาสผู้ทรยศ เฮโรดผู้ที่เยาะเย้ย ปีลาตผู้ที่ทำขัดกับมโนธรรมของตนเองโดยตัดสินประการชีวิตพระเยซูด้วยการตรึงบนไม้กางเขน หัวหน้าประชาชนที่สงวนท่าทีรักษาตำแหน่งของตน
ค.ปฏิบัติ          
        1. “เราทำให้พระเยซูเจ้าร้องไห้เพราะบาปของเราหรือไม่” เหมือนที่เราได้ฟังในตอนต้นของพิธีแห่ใบลาน พระเยซูทรงร้องไห้ให้กับกรุงเยรูซาเล็ม  
        2. “เราเป็นต้นมะเดื่อที่ไม่เกิดผลหรือไม่” พระเจ้าทรงมุ่งหวังให้เราทุกคนผลิตผลแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ความบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ความยุติธรรม สุภาพถ่อมตน นอบน้อมเชื่อฟัง ความรักเมตตา และการให้อภัย เราเป็นเช่นนี้หรือไม่ หรือตรงกันข้ามเราผลิตแต่ผลไม้ที่เป็นพิษ เช่น ความไม่บริสุทธิ์ ไม่ยุติธรรม หยิ่งจองหอง อิจฉาริษยา และเห็นแก่ตัว
        3. “ต้องให้พระเยซูใช้แส้เฆี่ยนเราหรือไม่” เหมือนพระเยซูทรงใช้เชือกเป็นแส้ขับไล่บรรดาพ่อค้าที่ทำให้พระวิหารของพระเจ้าเป็นมลทิน พระเยซูเจ้าไม่ทรงอดทนต่อการลบหลู่ดูหมิ่นพระวิหารซึ่งเป็นที่ประทับของพระจิตเจ้า หนึ่งคือการให้ความเคารพต่อวัดซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และอีกหนึ่งที่สำคัญคือร่างกายของเราเอง ขอให้เราเคารพตัวของเรา ทำตัวเราให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยกิจการที่ดี ความนึกคิดที่ดี การอยู่ในศีลและพระพรของพระเจ้า การรักษาความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับพระองค์
        4. “เราต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้าประทับในใจของเราหรือไหม” เราพร้อมที่จะใช้ชีวิตของเราในระหว่างสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างดีหรือไม่ เราจงระลึกไว้เสมอว่าเราเป็นคนบาปคนหนึ่งที่ได้ตรึงพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน และเราสามารถกลับมาหาพระเยซูเจ้าได้อีกครั้งหนึ่งโดยการวอนขอพระเมตตาด้วยศีลอภัยบาป
        5. “เราเป็นเหมือนลาไหม” เหมือนลาที่ให้พระเยซูเจ้าประทับเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม นำความรักที่ยิ่งใหญ่ ความรักและการให้อภัยที่ไม่มีเงื่อนไข และการรับใช้ช่วยเหลือด้วยความเสียสละไปสู่บ้านของเรา ครอบครัวของเรา ชุมชนของเรา ที่ทำงานของเรา และในทุกๆที่ที่เราอาศัยอยู่