ประกาศสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ที่ สสท. 207/2023
พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย “รวมพลัง รัก(ษ์) โลก”
4 ตุลาคม 2023 – ธันวาคม 2025
“ขอสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า” นี่คือความรู้สึกของเราเมื่อได้มองดูความสวยงามของธรรมชาติ เพราะพระเจ้าได้สร้างโลกนี้มาเพื่อมนุษย์และจากความรักของพระองค์ พระเยซูเจ้าเองก็ทรงชื่นชมความงามของธรรมชาติ สรรพสัตว์ ดอกไม้ตามทุ่งนา พระองค์ตรัสว่า “จงสังเกตดูดอกไม้ในทุ่งนาเถิด มันเจริญงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่า กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อทรงเครื่องอย่างหรูหราก็ยังไม่งดงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง” (มธ 6:28-29) (ดู Laudate Deum,1)
แต่มาบัดนี้โลกที่เคยสวยงามและมีความสมดุล กำลังถูกมนุษย์ทำลายอย่างหนัก โลกกำลังร้อนและถึงจุดวิกฤตของภาวะภูมิอากาศ เกิดสภาพการณ์ภูมิอากาศสุดขั้วในทุกทวีป มนุษย์กำลังมุ่งสู่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงในเวลาเดียวกันก็เดินเข้าใกล้หายนะมากเข้าไปทุกที ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บอกเราว่า สิ่งที่เรากำลังประสบอยู่ปัจจุบันคือ ภาวะโลกร้อนที่เร่งความเร็วอย่างผิดปกติ เรากำลังจะเกินขีดจำกัดสูงสุดที่ตั้งไว้คือ 1.5 องศาเซลเซียส และหลังจากนั้นไม่นานก็อาจสูงถึง 3 องศาเซลเซียส เป็นความเสี่ยงสูงที่จะถึงจุดวิกฤตของมนุษยชาติ (ดู Laudate Deum 5,6,56) บรรดาผู้นำประเทศส่วนใหญ่ในโลกได้ประชุมหารือกันเพื่อยับยั้งสภาพเลวร้ายนี้มากว่า 3 ทศวรรษแล้ว แต่ยังขาดการกระทำที่จริงจัง และยังคงละเลยต่อข้อตกลงร่วมกันเพื่อร่วมกันแก้ไขวิกฤตภูมิอากาศของโลกอย่างจริงจัง
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสไม่อาจทนนิ่งดูดายได้ พระองค์ทรงออกสมณสาส์นเตือนใจ “ขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า” (Laudato Si) เกี่ยวกับการดูแลรักษาโลก บ้านที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.2015 พระองค์ทรงนำเสนอมุมมองด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับวิกฤตด้านนิเวศวิทยาในปัจจุบัน (Laudato Si,15) ทรงชี้ให้เห็นถึงภาวะมลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ดู Laudato Si, 20 – 26) ทรงเรียกร้องอย่างเร่งด่วน ให้มีการเสวนาครั้งใหม่เกี่ยวกับวิธีการที่จะสร้างอนาคตของโลก ซึ่งจำเป็นต้องมีการกลับใจ (Laudato Si, 14) เพราะแท้จริงแล้ว เราแยกธรรมชาติออกจากตัวเราไม่ได้ เรารวมอยู่ในธรรมชาติ และเราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ (Laudato Si, 139) พระองค์ทรงเตือนเราว่า ในช่วงระยะเวลา 2 ศตวรรษท้ายสุดนี้ มนุษย์ได้กระทำทารุณและทำร้ายบ้านที่เราอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่เรากลับมีปฏิกิริยาตอบสนองที่อ่อนแอมากต่อการเรียกร้องให้มีการแก้ไข พระองค์ทรงเรียกร้องมิใช่แต่เพียงคริสตชนเท่านั้น แต่เชิญชวนมนุษย์ทุกคนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตของโลกของเราด้วยกัน
หลังจากครบ 8 ปีของการประกาศสมณสาส์น “ขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า”สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศสมณสาส์นเตือนใจ “ขอสรรเสริญพระเจ้า” (Laudate Deum) เพื่อฟื้นฟูความหวังใหม่ในการร่วมกันดูแลรักษาสิ่งสร้าง เพราะทรงเห็นว่า การเรียกร้องในสมณสาส์น “ขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า” ยังไม่มีการตอบสนองอย่างเพียงพอ ในขณะที่โลกที่เราอาศัยอยู่กำลังถึงจุดวิกฤต กระนั้นก็ดียังทรงมีความหวัง แม้ในขณะที่เราไม่สามารถแก้ไขความเสียหายดังกล่าวได้ แต่เราก็ยังสามารถเริ่มต้นป้องกันมิให้เกิดความเสียหายรุนแรงมากไปกว่านี้ในอนาคต ทรงกระตุ้นให้เราเห็นความจำเป็นเร่งด่วนของการร่วมมือระดับโลกด้วยข้อตกลงพหุภาคีใหม่ระหว่างรัฐประเทศ ความหวังจากการประชุมเรื่องสภาพภูมิอากาศโลก COP 28 ที่นครดูไบ ในเดือนธันวาคม 2023 นอกนั้นพระองค์เชิญชวนให้เราปรับและสร้างระบบพหุภาคีขึ้นใหม่ ให้พวกเราตระหนักว่า “กลุ่มและองค์กรภาคประชาสังคมจำนวนมากได้ช่วยเหลือกันจนเอาชนะจุดอ่อนของประชาคมระหว่างประเทศ การขาดการประสานงานในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและการขาดความระมัดระวังเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การเกิดกระบวนการที่ผู้คนปรับตัวเข้าหากัน ที่สุดจะกระตุ้นให้เกิดระบบพหุภาคี “จากเบื้องล่าง” มิใช่แค่ระบบเดียวที่กำหนดโดยกลุ่มผู้มีอำนาจสูงหรือผู้นำประเทศเท่านั้น พระองค์ย้ำว่าหากประชาชนไม่ควบคุมอำนาจทางการเมือง ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคและท้องถิ่น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมได้” (Laudate Deum, 38)
พระศาสนจักรคาทอลิกแห่งประเทศไทย ร่วมก้าวเดินไปด้วยกันกับพระศาสนจักรทั่วโลกกับสมเด็จพระสันตะปาปา ในการที่จะอุทิศตนดูแลรักษาสิ่งสร้าง และ ‘คืนดีกับโลกที่ให้เราอาศัยอยู่’ ร่วมมือในการฟื้นฟูความเชื่อภายในชุมชนพระศาสนจักร และก่อให้เกิดความหวังในการเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่ดีขึ้นและยั่งยืน ดังนั้นสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย จึงมีมติ
ประกาศให้ปี ค.ศ. 2024 – ค.ศ. 2025
เป็นปีแห่งการ “รวมพลัง รัก(ษ์)โลก” ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย
ขอให้บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช คริสตชนฆราวาส ตอบสนองอย่างแข็งขัน ด้วยแรงจูงใจทางความเชื่อ ดำเนินชีวิตด้วยความเคารพกฎธรรมชาติ และร่วมกันรับผิดชอบในการดูแลรักษาสิ่งสร้างของพระเจ้า โดยขอให้ทุกหน่วยงานภายใต้สภาพระสังฆราชและทุกสังฆมณฑล ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับประเทศ และระดับสังฆมณฑล รวมทั้งสถานศึกษาคาทอลิกและชุมชนวัด ทำงานร่วมเป็นเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรเอกชน ศรัทธาชนของศาสนาต่างๆ เพื่อเป็นพลังและเป็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นและยั่งยืนในสังคมไทย
ขอองค์พระจิตเจ้า ทรงนำทางการก้าวเดินไปด้วยกันของพระศาสนจักร การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และปฏิบัติพันธกิจรัก(ษ์)โลก ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน
( พระสังฆราชยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์)
ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย