ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราสถิตอยู่กับท่านทั้งหลาย
พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงออกประกาศสมณโองการให้ปี 2025 เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ “ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง” (SPES NON CONFUNDIT) (รม 5:5) เพื่อให้ “ความหวัง” เป็นสาระสำคัญของการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 ที่จะมาถึงนี้ที่จะไม่เพียงแค่การจาริกแสวงบุญไปยังกรุงโรมเพื่อรับประสบการณ์ปีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่เป็นการเฉลิมฉลองในพระศาสนจักรท้องถิ่นของคริสตชน และให้ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นช่วงเวลาแห่งการพบองค์พระเยซูเจ้าเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริงสำหรับทุกคน เพราะพระองค์ทรงเป็น “ประตู” แห่งความรอดพ้นของเรา (เทียบ ยน 10:7,9) และพระศาสนจักรมีพันธกิจต้องประกาศในทุกหนแห่ง และแก่ทุกคนเสมอว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นองค์ “ความหวังของเรา” (1 ทธ 1:1) (เทียบ Spes non confundit, 1) ซึ่งจะเป็นการนำทางเราก้าวสู่การเฉลิมฉลองครั้งสำคัญ คือในปี 2033 จะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบสองพันปีแห่งการไถ่บาป ซึ่งสำเร็จสมบูรณ์ด้วยพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซูคริสตเจ้า เพื่อเป็นโอกาสให้คริสตชนมุ่งหน้าก้าวเดินไปอย่างมั่นคงด้วยความเชื่อ กระตือรือร้น และมั่นคงในความหวัง (เทียบ 1 ธส 1:3) (ข้อ 6)
ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ พระศาสนจักรจึงต้องเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังที่จับต้องได้สำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนยากจน สำหรับผู้ที่ประสบความยากลำบากทุกรูปแบบ และการปกป้องสิทธิสำหรับผู้ที่อ่อนแอที่สุดเสมอ อาทิ ผู้ถูกคุมขัง ผู้ป่วย ผู้อพยพ (ดูข้อ 10-15) นอกจากนี้ปีศักดิ์สิทธิ์เตือนเราให้เป็นผู้แบ่งปันตามความยุติธรรม เพราะทรัพยากรบนโลกนี้ ไม่ได้ถูกกำหนดไว้สำหรับอภิสิทธิ์ชนเพียงไม่กี่คน แต่สำหรับทุกคน (ดู ข้อ 16-17)
ดังนั้นสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย จึงเสนอแนวทางอภิบาล เพื่อให้คริสตชนคาทอลิกในประเทศไทย ร่วมก้าวเดินไปด้วยกัน ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 ให้ตระหนักว่าชีวิตคือการเดินทาง ที่เรียกร้องให้มีช่วงเวลาเข้มข้นมากขึ้นในการส่งเสริม รักษาความหวัง (ข้อ 5) และหยั่งรากลึกในความหวังในพระเมตตาอันไร้ขอบเขตของพระเจ้า ผ่านทาง “พระคุณการุณย์” และศีลแห่งการคืนดี ซึ่งเป็นของประทานฝ่ายวิญญาณอันงดงาม เพื่อลิ้มรสการให้อภัยของพระองค์ ยอมให้พระเจ้าทรงรักษาใจเรา เลี้ยงดูเรา และโอบกอดเรา (ข้อ 22-23)
สภาพระสังฆราชฯ จึงเห็นควรให้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้
- ให้มีคณะกรรมการดำเนินงาน ใน 2 ระดับ
โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการอำนวยการระดับส่วนกลาง (ระดับสภาพระสังฆราช) เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง นำเสนอแนวทางการทำงานร่วมกับสังฆมณฑลต่าง ๆ อย่างเป็นเอกภาพ และให้มีคณะกรรมการดำเนินงานในระดับสังฆมณฑล เพื่อให้มีการดำเนินการสอดประสานกับแนวทางของคณะกรรมการอำนวยการส่วนกลาง และนำแนวทางการปฏิบัติในปีศักดิ์สิทธิ์ไปทำให้เกิดผลในระดับพระศาสนจักรท้องถิ่นอย่างแท้จริง
- การเตรียมจิตใจสู่ปีศักดิ์สิทธิ์
เป็นโอกาสที่พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งการถวายมิสซังไทยแด่แม่พระ เป็นการอธิษฐานภาวนาและเตรียมจิตใจเป็นพิเศษสู่ปีศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ควรส่งเสริมให้คริสตชนศึกษาเอกสารของสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 ได้แก่ 1. สังฆธรรมนูญว่าด้วยพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ (Sacrosanctum Concilium) 2. พระธรรมนูญด้านพระธรรม กล่าวถึงพระศาสนจักร (Lumen Gentium) 3. สังฆธรรมนูญว่าด้วยการเผยความจริงของพระเจ้า (Dei Verbum) และ
4. สังฆธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักรในโลกสมัยนี้ (Gaudium Et Spes) ทั้งระดับส่วนตัว และระดับหน่วยงานและองค์กร
- กิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ที่พระศาสนจักรท้องถิ่นต้องมีส่วนร่วมอย่างมีชีวิตชีวา
3.1 พิธีเปิดปีศักดิ์สิทธิ์ พิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน สมเด็จพระสันตะปาปา
ฟรานซิส ทรงกำหนดไว้ในสมณโองการปีศักดิ์สิทธิ์ (Spes non confundit) ว่าปีศักดิ์สิทธิ์จะเปิดในวันที่ 24 ธันวาคม 2024 เป็นวันสมโภชพระคริสตสมภพ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน และ พิธีเปิดโอกาสฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ ในระดับสังฆมณฑล ให้กระทำใน วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2024 โอกาสฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ โดยจัดพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างสง่างามในอาสนวิหาร โดยมีพระสังฆราชเป็นประธาน ในรูปแบบของ Stational Mass และพยายามให้สัตบุรุษทุกคนในสังฆมณฑลสามารถมาร่วมในพิธีด้วย
3.2 พิธีปิดปีศักดิ์สิทธิ์ ปีศักดิ์สิทธิ์ จะสิ้นสุดลงด้วยการปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ในระดับพระศาสนจักรสากลจะปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน ในวันที่ 6 มกราคม 2026 ซึ่งเป็นวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ ส่วนพิธีปิดปีศักดิ์สิทธิ์ ในพระศาสนจักรท้องถิ่น ให้กระทำใน วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2025 โอกาสฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ โดยจัดพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างสง่างามในอาสนวิหาร พระสังฆราชเป็นประธาน ในรูปแบบของ Stational Mass และพยายามให้สัตบุรุษทุกคนในสังฆมณฑลสามารถที่จะร่วมด้วย เพื่อเป็นโอกาสที่จะขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่ได้ทรงกระทำในปีพิเศษนี้
(โปรดดูรายละเอียดพิธีกรรมใน “คู่มือพิธีกรรม” สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์)
- สถานที่เพื่อการแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ในสังฆมณฑล
พระสังฆราชท้องถิ่นเป็นผู้ประกาศให้อาสนวิหาร เป็นสถานที่เพื่อการแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ และกำหนดให้วัด สักการสถาน หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในสังฆมณฑล เป็นสถานที่เพื่อการแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์
- การมอบพระคุณการุณย์ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025
ตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา โดยสำนักงานศาลพระศาสนจักรว่าด้วยชีวิตภายใน ออกระเบียบ
“ว่าด้วยการมอบพระคุณการุณย์ระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” เพื่อให้บรรดาสัตบุรุษสามารถใช้ประโยชน์จาก กฎเกณฑ์และแนวทางในการรับพระคุณการุณย์ และทำให้การรับพระคุณการุณย์ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ เกิดผลฝ่ายวิญญาณมากที่สุด (Spes non confundit ข้อ 23) โดยพระสังฆราชประจำสังฆมณฑลทุกองค์ และบรรดาผู้มีสิทธิเทียบเท่า สามารถมอบพระพรของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Blessing) พร้อมกับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ที่ผนวกอยู่ ซึ่งสัตบุรุษทุกคนที่ได้รับพระพรดังกล่าวนี้จะสามารถรับได้ภายใต้เงื่อนไขปกติ ในวันที่เหมาะสมของช่วงเวลาปีศักดิ์สิทธิ์ ในโอกาสของการเฉลิมฉลองใหญ่ในอาสนวิหารและในแต่ละวัดที่กำหนดไว้สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์
นอกนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเชิญชวนบรรดาพระสังฆราชประมุขท้องถิ่น ได้มอบให้บรรดาพระสงฆ์อาวุโสประจำอาสนวิหาร บรรดาพระสงฆ์ในอาสนวิหาร ในวัด และธรรมทูตแห่งพระเมตตา ฟังการสารภาพบาปของบรรดาสัตบุรุษมีอำนาจปฏิบัติปกติโดยหน้าที่ในการให้อภัย ในขอบเขตภายในของศีลศักดิ์สิทธิ์ แก่ผู้ที่ต้องโทษทันทีตามกฎหมายที่มิได้ประกาศและที่มิได้สงวนไว้แก่สันตะสำนัก (internal forum) ตามอำนาจที่กำหนดไว้ในมาตรา 508 §1 ของประมวลกฎหมายพระศาสนจักร เพื่อให้การเข้าถึงศีลอภัยบาป และการรับศีลอภัยบาปจากพระเจ้า โดยผ่านทางอำนาจอาชญาสิทธิ์ (Power of Keys) เป็นไปได้โดยง่าย
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเตือนบรรดาพระสงฆ์ทุกองค์ให้มีใจกว้างและเสียสละในการเปิดโอกาสให้กว้างขวางแก่บรรดาสัตบุรุษ เมื่อใดก็ตามที่คนบาปมาหาด้วยใจที่เปิดกว้างและด้วยใจสำนึกผิด (ดู Spes non confundit ข้อ 23) ให้ได้รับประโยชน์จากเครื่องมือของความรอดพ้น โดยกำหนดและประกาศตารางเวลาสำหรับการฟังแก้บาป โดยจัดให้มีการประกอบพิธีศีลอภัยบาปเป็นระยะตามกำหนดเวลาหรือบ่อยๆ และขอเชิญชวนบรรดาพระสังฆราช ได้เอาใจใส่ที่จะอธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวปฏิบัติและหลักการที่เสนอไว้ เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาสัตบุรุษ โดยคำนึงเป็นพิเศษถึงสภาวะการณ์ด้านสถานที่ ด้านวัฒนธรรม และด้านขนบประเพณี
(โปรดศึกษารายละเอียด ในเอกสารแนบ “ระเบียบว่าด้วยการมอบพระคุณการุณย์ระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์ 2025)
โดยผ่านทาง พระมารดามารีย์ ผู้ทรงรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของประเทศไทย เราได้พบประจักษ์พยานสูงสุดแห่งความหวังของเรา พระนางทรงกลายเป็นมารดาแห่งความหวังของเรา โปรดทรงช่วยเสนอวิงวอนแทนเรา ทรงค้ำจุนเรา และกระตุ้นให้เราพากเพียรด้วยความหวังและความไว้วางใจ (ข้อ 24) เพื่อทำให้ปีศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาถึงนี้ เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง และเพื่อเราทุกคนได้จะเป็นเครื่องมือแห่งความหวัง เป็นเชื้อแป้งแห่งความหวังที่แท้จริงสำหรับโลกของเรา ในการส่งเสริมศักดิ์ศรีของทุกคน เคารพต่อสิ่งสร้าง ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้า (ดู Spes non confundit ข้อ 25)
ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรทุกท่าน
( บิชอป ยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ )
ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน 2024
โอกาสฉลองแม่พระบังเกิด
เอกสารประกอบ
1) สมณโองการปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 “ความหวังนี้ ไม่ทำให้เราผิดหวัง” (Spes non confundit)
2) คู่มือพิธีกรรมสำหรับปีศักดิ์สิทธิ์ 2025
3) ระเบียบการว่าด้วยการมอบพระคุณการุณย์ ระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 โดยพระสันตะปาปาฟรานซิส