
ข่าวดีวันสมโภชพระจิตเจ้า 
(31 พฤษภาคม 2020) 
ก.ความสำคัญ
1. วันสมโภชพระจิต หรือ วันเปนเตกอสเต ซึ่งหมายถึง เลข 50 เป็นวันฉลองครบ 50 วันหลังจากการฉลองปัสกาของชาวยิว และการฉลองครบ 50 วันหลังจากการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าของบรรดาคริสตชน ต้นกำเนิดวันฉลองเปนเตกอสเตของชาวยิวนั้นเกิดขึ้นจากการฉลองวันขอบพระคุณพระเจ้าหลังจากการเก็บพืชผลต่างๆ ต่อมาชาวยิวได้รวมการระลึกถึงพันธสัญญาของพระเจ้าที่ให้ไว้กับโนอาห์หลังน้ำท่วมโลกและกับโมเสสที่ภูเขาซีนัย(พระบัญญัติสิบประการ) เข้าด้วยกันด้วย
2. เหตุการณ์ในวันเปนเตกอสเต 
    1) พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนืออัครสาวกและพระนางมารีย์ในรูปลักษณะคล้ายลิ้นที่ลุกเป็นไฟ 
    2) บรรดาอัครสาวกเปลี่ยนจากความกลัวมาเป็นผู้เทศน์สอนที่กล้าหาญและได้รับพระพรในเรื่องการพูดโดยการทรงเจิมของพระจิตเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ 
    3) ผู้ฟังได้รับประการณ์การทรงเจิมของพระจิตเจ้าโดยผ่านทางพระพรการพูดของบรรดาอัครสาวก เช่น คนต่างชาติได้ยินเปโตรพูดภาษาท้องถิ่นของพวกเขา 
    4) คริสตชนรุ่นแรกกลับกลายเป็นประจักษ์พยานที่ทรงพลังและยอมตายเพื่อยืนยันความเชื่อ (มรณะสักขี) ในพระเยซูเจ้า
3. บทบาทของพระจิต: บทบาทของพระจิตในชีวิตคริสตชน 
    1) ในฐานะพระเจ้าผู้ประทับอยู่ท่ามกลางเรา พระจิตเจ้าทรงทำให้เราเป็นพระวิหารที่มีชีวิตของพระองค์ (1 คร 3:16) 
    2) ในฐานะพระเจ้าผู้เสริมพลัง พระองค์ทรงเสริมพลังให้เราเข้มแข็งในการต่อสู้กับการประจญและในการดำเนินชีวิตที่แสดงตนให้เป็นประจักษ์ของพระคริสต์ด้วยการดำเนินชีวิตคริสตชนที่โปร่งใส 
    3) ในฐานะพระเจ้าผู้ประทานความศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ทรงทำให้เราศักดิ์สิทธิ์โดยผ่านทางศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก) ผ่านทางศีลล้างบาป ทำให้เราเป็นบุตรของพระเจ้าและทายาทแห่งเมืองสวรรค์ ข) ผ่านทางศีลกำลัง ทำให้เราเป็นพระวิหารของพระเจ้า เป็นทหารหาญปกป้องความเชื่อ ค) ผ่านทางศีลอภัยบาป พระองค์ทรงทำให้เรากลับคืนดีกับพระเจ้าโดยทรงอภัยความผิดบาปต่างๆ ของเรา ง) ผ่านทางศีลมหาสนิท พระองค์หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเราโดยทรงเปลี่ยนขนมปังและเหล้าองุ่นให้เป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์เองโดยทางพระจิต จ) ผ่านทางศีลบวชและศีลสมรส พระองค์ทรงทำให้ชุมชนพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์
4) ในฐานะพระเจ้าผู้ทรงสอนและผู้ทรงนำทาง พระองค์ทรงเตือนเราให้เข้าใจคำสอนของพระศาสนจักรและแนวทางปฏิบัติที่มาจากอำนาจคำสั่งสอนตามลำดับขั้นของพระศาสนจักรอย่างถูกต้อง ชัดเจนและสม่ำเสมอ.
5) ในฐานะพระเจ้าผู้รับฟังและผู้พูด พระองค์ทรงสดับฟังคำภาวนาของเรา และทรงสอนเราให้รู้จักภาวนา และทรงตรัสกับเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางพระคัมภีร์
6) ในฐานะผู้ประทานพระพร พระองค์ทรงประทานความสามารถให้เราแต่ละคนและให้แก่พระศาสนจักร
ข. ปฏิบัติ: เราต้องดำเนินชีวิตภายใต้การทางนำของพระจิตเจ้า โดย
    1. สำนึกตนอยู่เสมอว่าพระจิตเจ้าประทับอยู่ในตัวของเราและหมั่นประพฤติตนอย่างดีอยู่เสมอทุกเวลานาที
    2. โดยการอธิษฐานภาวนาประจำวันเพื่อเราจะได้ไม่แพ้การประจญของปีศาจและสามารถควบคุมตนจากความชั่วร้ายต่างๆ เอาชนะนิสัยที่ไม่ดีของเราให้ได้
    3. รับฟังเสียงของพระองค์โดยการอ่านพระคัมภีร์ประจำวัน
    4. โดยการวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์ให้สามารถทำความดีกับผู้อื่น และคืนดีกับพระเจ้าและผู้อื้นทุกวัน