พระคัมภีร์
(ปชญ 6:12-16 , 1ธส 4:13-17 , มธ 25:1-13)
๓ บทอ่านที่1 ได้พูดถึงปรีชาญาณหรือความฉลาดรอบรู้ที่แท้จริง ไม่ได้มาจากปรัชญา/ทฤษฎีแนวคิดอื่นใด แต่มาจากพระวาจาและคำสั่งสอนของพระเจ้า เพื่อการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและมีความสุข
๔ บทอ่านที่2 น.เปาโล ได้บอกเราว่าการรับทรมาน สิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเจ้า เป็นการนำเราให้อยู่ร่วมและมีชีวิตนิรันดรในเมืองสวรรค์พร้อมกับพระองค์ แต่ทุกคนก็ควรที่จะมีการตื่นตัวและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งขององค์พระเยซูคริสตเจ้า
๖ พระวรสาร ได้สอนเรา ถึงการเตรียมตัวที่พร้อมและการเตรียมตัวที่ไม่พร้อมโดยยกตัวอย่างของหญิง5คนที่ฉลาดซึ่งเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงไว้พร้อมและอีก5คนที่ไม่ฉลาดซึ่งไม่ได้เตรียมน้ำมันสำหรับตะเกียงของตน เพื่อเข้าร่วมพิธีในงานมงคลสมรส
น้ำมันในตะเกียงเปรียบได้กับ คุณงามความดีที่เราสะสมไว้ในชีวิต
ข้อปฎิบัติ
๗ เราต้องเป็นคนที่ฉลาด มีการเตรียมตนเอง แสวงหาพระเจ้าในชีวิตประจำวันของเรา ผ่านทางความประพฤติตามแบบอย่างพระเยซูเจ้า โดย ใจดี มีเมตตาและรู้จักให้อภัยผู้อื่น
๘ ให้เรามั่นใจว่า น้ำมันในตะเกียงของเรามีเพียงพออยู่เสมอ เราจึงต้องหมั่นตรวจสอบและเติมน้ำมันชีวิตของเรา ผ่านทางชีวิตประจำวัน การร่วมพิธีมิสซา การสวดภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ การปฏิบัติกิจเมตตา
๙ เชื้อเพลิงในชีวิตฝ่ายจิตที่สำคัญที่สุด คือ ศีลมหาสนิท ดังนั้น การรับศีลมหาสนิททุกครั้งที่เรามาร่วมมิสซา จึงเป็นการเติมพลังชีวิตให้กับเราแต่ละคน เหมือนดังคำขวัญของพิธีเคารพศีลมหาสนิทในปีนี้ที่ว่า "ศีลมหาสนิท ศูนย์กลางชีวิตศิษย์พระคริสต์ วานนี้ วันนี้ และตลอดไป"