พระคัมภีร์และคำสอน
3. บทอ่านที่หนึ่ง (ยนา 3:1-5,10) วิธีการที่พระเจ้าทรงจัดการกับผู้ที่ไม่นบนอบเชื่อฟังคือการส่งประกาศกโยนาห์ไปตักเตือนพวกเขาให้เปลี่ยนแปลงชีวิต คนชั่วร้ายในเมืองนีนะเวห์รู้สึกเสียใจ และทำกิจใช้โทษบาปโดยการอดอาหารและสวมผ้ากระสอบ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้า
4. บทอ่านที่สอน (1คร 7:29-31) น.เปาโลเตือนชุมชนคริสตชนในเมืองโครินธ์ว่าอย่ารีรอที่จะยอมรับข่าวดีของพระเจ้าและปรับปรุงการดำเนินชีวิตใหม่ หมั่นใช้โทษบาปอยู่เสมอ เพราะการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเจ้าจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้
5. พระวรสาร (มก 1:14-20) พระเยซูเจ้าเสด็จมาเทศนาให้ชาวเมืองกาลิลี โดยท้าทายประชาชนว่า “จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” และได้เลือกสาวกรุ่นแรกสี่คน
6. “การกลับใจ” หมายถึงการเปลี่ยนแปลงความคิดหรือแนวทางในการดำเนินชีวิต จัดลำดับใหม่ให้ถูกต้อง
7. “การใช้โทษบาป” หมายถึง การกระทำดีชดเชยความผิด และยังหมายถึงการเกลียดชังบาป และเสียใจที่ได้กระทำบาป
8. “เชื่อข่าวดี” หมายถึง การเอาจริงเอาจังในการน้อมรับพระวาจาของพระเจ้า นำเอาพระวาจามาปฏิบัติจริงในชีวิตประวัน และไว้วางใจในพลานุภาพแห่งความสอนของพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงรัก ห่วงใจ ให้อภัย ให้โอกาสเราเสมอ
9. นอกจากนั้นพระเยซูทรงเรียกสาวกรุ่นแรกสี่คนในขณะที่กำลังซ่อมแห่อยู่ หมายความว่าพระเยซูเจ้าทรงเรียกคนธรรมดาๆ คนที่ทำงานหนักมาเป็นผู้ร่วมงานของพระองค์ มาเป็นเครื่องมือของพระเจ้า
ข้อปฎิบัติ
10. เราต้องดีใจที่พระเจ้าทรงเลือกเราได้เป็นศิษย์ของพระองค์ ทุกคนได้รับเรียกทั้งส่วนตัวและส่วนรวมให้รวมกันเป็นชุมชนวัด (ลูกวัด) เพื่อสืบทอดพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี
11. เราแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นใคร สงฆ์นักบวชหรือฆราวาส โสดหรือมีครอบครัว หรือมีอาชีพใด เราต่างเป็นผู้ร่วมงานกับพระเจ้าได้ทั้งนั้น เพราะพระเจ้าทรงเรียกเราโดยเริ่มจากศีลล้างบาปและศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ
12. ในเวลาเดียวกันเราแต่ละคนย่อมมีนิสัยหรือพฤติกรรมบางสิ่งบางอย่างที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และเมื่อพิจารณาตนแล้วเรายังต้องมีอะไรที่ต้องกระทำเพื่อใช้โทษบาปชดเชยความผิดของเราเองด้วย
13. ให้เราขอพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา ให้เราได้มาเป็นศิษย์ของพระคริสต์ สมาชิกของพระศาสนจักร ให้ชีวิตของเราฉายแสงสว่างของพระคริสต์ไปให้ทุกคน ให้เราพร้อมที่จะดำเนินชีวิตด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความเมตตากรุณา ความสุภาพถ่อมตน และรับใช้ทุกคนในสังคม