ข. พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง (อสย50:5-9ก)
พระเยซูเจ้าทรงมองเห็นชีวิตและพันธกิจของพระองค์ล่วงหน้าในบทเพลงของผู้รับใช้ในถ้อยคำของอิสยาห์ พระองค์ทรงเป็นเสมือนผู้รับใช้ที่ยอมทนทุกข์ด้วยความนบนอบเชื่อฟัง ทรง “หันหลังให้ผู้โบยตี หันแก้มให้แก่ผู้ที่ดึงเครา” เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า นี้เป็นเบื้องหลังที่เผยแสดงให้เห็นถึงชีวิตของพระเยซูเจ้าที่ต้องทนทุกข์เพื่อไถ่บาปเรามนุษย์
2. บทสดุดี (สดด 116)
บทสดุดีนี้เชิญชวนเราให้หันหน้าเข้าหาพระเจ้าเพื่อวอนขอความช่วยเหลือในยามที่ถูกประจญหรือการทดลอง พระเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเราได้
3. บทอ่านที่สอง (ยก 2:14-18)
น.ยากอบเตือนเราว่าเราไม่เพียงแต่ต้องยอมรับความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเท่านั้น แต่ความทุกข์ต้องทำให้เราเกิดความเข้าถึงจิตใจของคนอื่นด้วย และทำให้เรากลับกลายเป็นคนที่จะแสดงความเชื่อออกมาด้วยการกระทำไม่ว่าจะเป็นด้วยกิจเมตตาฝ่ายกายและกิจเมตตาฝ่ายจิต
4. พระวรสาร (มก 8:27-35)
ในคำตอบของ น.เปโตรที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระผู้นำความรอดพ้นและพระผู้ไถ่นั้น พระเยซูเจ้าทรงบอกล่วงหน้าถึงเรื่องการรับทุกข์ทรมาน สิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระองค์ วันนี้พระเยซูเจ้าทรงยืนยันสองเรื่องที่สำคัญคือ (1) พระองค์ทรงเป็นพระผู้นำความรอดพ้นและพระผู้ไถ่บาปมนุษย์ ทรงเป็นพระคริสต์ (ผู้ได้รับเจิม) ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต (2) ทรงทำนายล่วงหน้าว่าพระองค์จะต้องได้รับทุกข์ทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับฟื้นคืนชีพ และติดตามด้วยคำสอนเรื่องเงื่อนไขการเป็นศิษย์ของพระคริสต์ 3 ประการ คือ “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็ให้เขาเลิกคิดถึงตนเอง ให้แบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา”
ค. ปฏิบัติ
1. “ตอบรับความรักของพระองค์” พระเยซูเจ้าทรงปรารถนาที่จะประทับอยู่กับเรา รักเรา ช่วยเหลือเรา ให้อภัยเรา เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ละม้ายคล้ายกับพระองค์ พระองค์ทรงปรารถนาที่จะมีความสนิทสัมพันธ์กับเราแต่ละคน ดังนั้นการรู้ว่าพระเยซูคือใครจึงเรียกร้องให้เราได้ตอบสนองความรักของพระองค์ ตอบรับความรักของพระองค์ เข้ามาชิดสนิทกับพระองค์ ด้วยการเรียนรู้จักพระองค์ให้มากขึ้น อ่านพระคัมภีร์ประจำวัน พูดกับพระองค์ด้วยการสวดภาวนาทั้งส่วนตัวและกับครอบครัว มอบชีวิตและกิจการของเราพร้อมกับของถวายในพิธีบูชามิสซาฯ วอนขออภัยบาปด้วยศีลอภัยบาป รับศีลมหาสนิทเพื่อเป็นอาหารฝ่ายจิตทุกวันอาทิตย์
2. “มอบชีวิตให้พระเจ้า” เมื่อเรามีประสบการณ์กับพระเยซูคริสต์แล้วขั้นต่อไปคือการมอบกายถวายชีวิตให้พระองค์ทรงนำ เมื่อเราสำนึกตนว่าเราเป็นของพระองค์ ตระหนักว่าพระองค์ประทับอยู่ในตัวของเราแล้ว เราจะได้ประพฤติปฏิบัติเช่นเดียวกับพระองค์ นั้นคือไปที่ไหนก็กระทำแต่ความดีที่นั้น เราจะไม่ทำอะไรที่ทำให้พระองค์ต้องเสื่อมเสีย ตรงกันข้ามเราจะทำทุกสิ่งเพื่อให้พระองค์ได้รับเกียรติ และทำให้ทุกคนอยากจะมารู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น