ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง(ดนล 7:13-14): ประกาศกดาเนียลได้กล่าวถึงบุตรแห่งมนุษย์ที่เสด็จมาอย่างน่ามหัศจรรย์ (ซึ่งหมายพระเยซูเจ้าเองที่พระองค์ทรงเผยแสดงในภายหลัง) เสด็จมาพร้อมกับหมู่เมฆในท้องฟ้า แสดงออกให้เห็นถึงอำนาจบารมี และสิริรุ่งโรจน์ ที่จะปกครองโลกตลอดไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
2. บทสดุดี (สดด 93) ประกาศว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ “ โดยการเฉลิมฉลองพระเจ้าของอิสราเอลในฐานะที่ทรงเป็นกษัตริย์ของสิ่งสร้างทั้งปวง
3. บทอ่านที่สอง (วว 1:5-8): คัดมาจากหนังสือวิวรณ์ พูดถึงพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับฟื้นคืนชีพเสด็จมาท่ามกลางหมู่เมฆในฐานะที่เป็นปฐมเหตุ(อัลฟา) และอวสานกาล(โอเมกา)ของสิ่งสร้างทั้งปวง
4. พระวรสาร (ยน 18:33-37): พระเยซูเจ้าทรงยืนยันต่อหน้าปิลาตว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์และชี้แจงอย่างชัดเจนถึงอาณาจักรของพระองค์ว่า “อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” พระองค์ทรงปกครองในฐานะกษัตริย์โดยการรับใช้ผู้อื่นมากกว่าที่จะใช้อำนาจเหนือผู้อื่น อำนาจของพระองค์อยู่บนรากฐานของความจริง ไม่ใช่การบังคับด้วยกำลัง และอาณาจักรของพระองค์ปกครองด้วยหลักคำสอนเรื่องความสุขที่แท้จริง 8 ประการพระเยซูเสด็จมาเพื่อแสดงพระองค์ให้เป็นประจักษ์พยานในความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าและความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อเรามนุษย์ ความจริงเกี่ยวกับตัวของพระองค์เองในฐานะพระบุตรของพระเจ้า และความจริงเกี่ยวกับตัวของเราในฐานะที่เป็นบุตรของพระเจ้า
ค. ปฏิบัติ
1. “ยอมรับและมอบตนเองให้พระเยซุเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นกษัตริย์และพระผู้ไถ่บาปของเรา” เรามอบชีวิตของเราให้พระเยซูเจ้าทุกวันเมื่อเราจัดให้ความสำคัญกับคำสอนของพระเยซูเจ้าเป็นลำดับแรกในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจในเรื่องของความประพฤติว่าอะไรถูกหรือผิด อะไรควรทำหรือควรละเว้น ให้เรานำสอนของพระเยซูมาปฏิบัติในชีวิตส่วนตัวและในครอบครัวของเรา ให้คำสอนของพระองค์เป็นหลักในการตัดสินใจดำเนินชีวิตของเรา ให้พระองค์ปกครอง ความคิด หัวใจ ความปรารถนา และกิจการต่างๆของเรา
2. “ต้องรับใช้” เหมือนพระเยซูที่ทรงเป็นกษัตริย์ที่รับใช้ พระเยซูทรงประกาศว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อรับใช้มิใช่มาเพื่อเป็นเจ้านาย พระองค์แสดงให้เห็นด้วยการล้างเท้าศิษย์ของพระองค์ เราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าเมื่อเรามองเห็นพระองค์ประทับในตัวของเพื่อนพี่น้องทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากจน คนเจ็บป่วย คนชายขอบของสังคม ให้เรามอบความรัก การช่วยเหลือด้วยความสุภาพถ่อมตน
3. “ยอมรับพระเยซูในฐานะกษัตริย์แห่งความรัก” พระเยซูทรงมาประกาศข่าวดีแห่งความรักและการไถ่บาปให้เราทุกคน พระองค์ทรงมอบบัญญัติแห่งความรัก “จงรักกันและกันเหมือนที่เรารักท่าน” และแสดงความรักนั้นโดยการยอมตายเพื่อคนบาป เรายอมรับพระเยซูในฐานะที่ทรงเป็นกษัตริย์แห่งความรักเมื่อเรารักผู้อื่นเหมือนที่พระเยซูทรงรัก รักอย่างไม่มีเงื่อนไข รักที่เสียสละ รักที่ไม่หวังผลประโยชน์