ข่าวดีสัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา (23 กุมภาพันธ์ 2020)
จงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์
ก. ความสำคัญ
1. บทอ่านวันนี้อธิบายเหตุผลว่าทำไมเราคริสตชนจะต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์และทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ บทอ่านที่หนึ่งและที่สองให้เหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ และบทพระวรสารให้วิธีการหล่อหลอมตนเองให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ 4 ประการตามคำสอนของพระเยซูเจ้า
ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง (บสร 15:15-20) หนังสือบุตรสิราสอนเราว่าเราต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์เพราะนี้เป็นคำสั่งที่พระเจ้าประทานแก่เรามนุษย์โดยผ่านทางโมเสสว่า “ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ และยังได้แนะนำวิธีการมีส่วนร่วมในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าด้วยคำสั่งว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
2.บทสดุดี (สดด103) เชิญชวนเราให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระบิดาสวรรค์ของเราด้วยการแสดงความรัก ความเมตตา การให้อภัยแก่ผู้อื่น
3.บทอ่านที่สอง (1คร 3:16-23) นักบุญเปาโลได้เพิ่มเติมเหตุผลที่ทำให้เราต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ นอกจากเป็นคำสั่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เราเองต้องรักษาร่างกายและวิญญาณของเราให้ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์เพราะว่าเราเป็น “วิหารของพระจิตเจ้า” ตัวเราเป็นที่ประทับขององค์พระจิตเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์
4.พระวรสาร (มธ 5:38-48) วันนี้พระเยซูทรงชี้แนะวิธีการหล่อหลอมตนเองให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์สี่ประการด้วยกัน
ค.ปฏิบัติ
1. “ไม่ตอบโต้” วิธีแรกที่จะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์คือระงับการตอบโต้ในทุกรูปแบบ พระเยซูเจ้าทรงใช้คำสอนเดิมของชาวยิวที่ผ่านมาทางโมเสสมาพัฒนาให้สูงขึ้น จากเดิมที่สอนกันว่า “ท่านเคยได้ยินว่า...ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” พระเยซูทรงยกระดับให้มาตรฐานใหม่ว่า “แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย หมายความว่า พระเยซูเจ้าทรงมอบบัญญัติใหม่แห่งความรัก พระพร การให้อภัย การคืนดีกัน และการไม่ตอบโต้ ซึ่งพฤติกรรมดีๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จะต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้า ด้วยการภาวนา และอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำ
2. “มีความรักเมตตา” วิธีที่สองที่จะเป็นคนศักดิ์สิทธิ์เหมือนองค์พระเจ้าทรงศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูทรงให้ภาพสามภาพ “ผู้ใดอยากได้เสื้อยาว จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย” “ผู้ใดเกณฑ์ให้ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปก็เขาสองหลักเถิด” “ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงอย่าหันหลังให้…” พระเยซูเจ้าทรงสอนเราว่าสิ่งที่ทำให้เราคริสตชนแตกต่างจากคนอื่นก็คือพระพรที่ทำให้เราปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความรัก ความเมตตา ความใจดี เราได้รับคำสั่งให้รักแม้กระทั่งศัตรูเหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงรักเรา เป็นความรักที่ไม่หวังผลประโยชน์อื่นใด รักที่บริสุทธิ์ รักแบบที่พระเยซูเจ้าทรงยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อช่วยเราให้รอดพ้นจากผลของบาปต่างๆที่เราได้กระทำลงไป
3. “การให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข” วิธีที่สามเพื่อจะได้มีส่วนในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าคือการให้อภัยความผิดของผู้อื่นอย่างไม่มีเงื่อนไขและด้วยความเต็มใจโดยไม่มีการวางแผนเพื่อการแก้แค้นใดๆทั้งสิ้น นี้ไม่ได้แค่รักเพื่อนบ้านแต่ยังต้องให้อภัยบุคคลที่เคยทำร้ายจิตใจของเราหรือเป็นเหตุที่ทำให้เราต้องทุกข์ทรมาน หรือไม่มีความสุข
4. “ภาวนาให้ผู้อื่น” วิธีที่สี่เพื่อเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ คือการภาวนาให้บุคคลที่เราไม่ชอบ คนที่ไม่ดี เพื่อขอให้เขาได้เปิดใจต้อนรับคำสอนของพระเจ้า ปรับเปลี่ยนตนเองให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม ดังนั้นข่าวดีในวันนี้จึงเชิญชวนให้เราได้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์เหมือนองค์พระผู้เป็นเจ้าโดย ไม่ตอบโต้ความผิดของผู้อื่น มีความรักเมตตา การให้อภัย และภาวนาเพื่อให้เขากลับใจ