ข่าวดีสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต (15 มีนาคม 2020)
น้ำทรงชีวิต
ก. ความสำคัญ
1.บทอ่านในวันนี้เน้นเรื่อง “ศีลล้างบาป” และ “ชีวิตใหม่” น้ำทรงชีวิต ( Living water) เป็นตัวแทนของพระจิตของพระเจ้าที่ได้เสด็จมาประทับในตัวของเราโดยผ่านทางศีลล้างบาป พระจิตมิได้ทรงสวมกอดเราแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ประทับอยู่ในทุกองค์คาพยศในชีวิตของเรา และดับความกระหายต่างๆในจิตวิญญาณของเรา พระจิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า พระวาจาของพระเจ้า และศีลศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนจักรเป็นแหล่งกำเนิดแรกของ “น้ำทรงชีวิต” ขององค์พระผู้เป็นเจ้า เรามาร่วมชุมนุมในวัดของเราในวันนี้เพื่อจะได้ดื่ม “น้ำแห่งชีวิตนิรันดร์” และ “น้ำแห่งการไถ่บาป” ของเรา เราได้รับการชำระล้างในศีลล้างบาป เราได้รับการฟื้นฟูชีวิตขึ้นใหม่โดยศีลมหาสนิท เราได้แนวทางดำเนินชีวิตใหม่โดยพระวาจาองพระเจ้า พระวรสารในวันนี้เชิญชวนเราให้กระหายหาน้ำทรงชีวิตซึ่งพระเจ้าเท่านั้นที่จะดับกระหายให้เราได้
ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง (อพย 17:3-7) เล่าเรื่องวิธีการที่พระเจ้าทรงจัดหาน้ำให้ชาวอิสราเองที่บ่นตำหนิโมเสสว่านำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ ต้องทนทรมานไม่มีน้ำดื่มในระหว่างเดินทาง พระเจ้าจึงทรงให้โมเสสใช้ไม้เท้าเคาะภูเขาโฮเรบแล้วน้ำก็ออกมาให้พวกเขาและฝูงสัตว์ได้ดื่มกิน
2. บทสดุดี (สดด 95) เชิญชวนให้เราสรรเสริญพระเจ้าที่ทรงเป็นหลักศิลาแห่งความรอด และอย่าทำใจแข็งกระด้าง ให้รับฟังพระสุรเสียงของพระองค์ ให้เราภาวนา จำศีลอดอาหารและทำกิจเมตตาเพื่อเราจะได้รับน้ำทรงชีวิต
3. บทอ่านที่สอง (รม 5:1-2,5-8) นักบุญเปาโลยืนยันว่าพระเยซูเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นพระผู้ไถ่ของมวลมนุษย์ พระองค์ประทานน้ำทรงชีวิตซึ่งเป็นของขวัญของพระจิตเจ้าลงในจิตใจของเรา
4.พระวรสาร (ยน 4:5-15,19ข-26,39d,40-42) วันนี้หญิงชาวสะมาเรียได้รับน้ำทรงชีวิต พระเยซูเจ้าทรงปลุกจิตสำนึกให้เธอหิวกระหายที่ไม่ใช้น้ำธรรมดาแต่เป็นน้ำที่ให้ชีวิตเหนือธรรมชาติ และในโอกาสนี้เองที่พระองค์ทรงประกาศว่าพระองค์เองทรงเป็น “แหล่งกำเนิดของน้ำทรงชีวิต”
ค.ปฏิบัติ
1. “เปิดใจต้อนรับ” ให้เราต้อนเปิดใจต้อนรับพระเยซูเจ้า เหมือนหญิงสะมาเรียในพระวรสารวันนี้ พระองค์ทรงปรารถนาที่จะเข้ามาประทับในตัวอย่างเราแต่ละคนอย่าง “ส่วนตัวเป็นพิเศษ” โดยไม่ประสงค์ที่จะอยู่กับเราเพื่อจับผิด หรือพิพากษา หรือประณามต่อว่าเรา แต่เพื่อช่วยเรา เสริมกำลังใจเรา ปลดปล่อยเราจากนิสัยที่ไม่ดี เหมือนคนที่กระหายน้ำ แล้วกลับมีชีวิตชีวาขึ้นใหม่เพราะได้น้ำ ดังนั้นการมาวัดวันอาทิตย์ การรับศีลศักดิ์สิทธิ์ การรับฟังพระวาจาของพระเจ้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลมหาพรตนี้จึงเป็นเสมือการมาดื่นน้ำทรงชีวิตนั้นเอง
2. “มีชีวิตที่เป็นพยานถึงพระเยซู” หญิงสะมาเรียเมื่อได้พบพระเยซูเจ้าแล้วได้ออกไปประกาศเรื่องพระเยซูให้เพื่อนบ้านได้รับฟัง ให้เรากล้าหาญที่จะเล่าเรื่องของพระเยซูให้เพื่อนฟัง กล้าหาญที่จะแสดงตนว่าเป็นศิษย์ของพระเยซูคริสต์ เป็นบุคคลที่ยืนอยู่ข้างความถูกต้องและความยุติธรรม และพาเพื่อนที่สนใจมารู้จักพระองค์ให้มากขึ้น เพื่อพวกเขาจะได้รับน้ำทรงชีวิตเหมือนกับเรา
3. “ละทิ้งนิสัยไม่ดี” ช่วงเทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะต้องพยายามลด ละ เลิกนิสัยที่ไม่ดี เช่น เกียจคร้าน ไม่รับผิดชอบ การกินการดื่ม การนินทาว่าร้ายกัน การพนัน ฯลฯ สิ่งไม่ดีเหล่านี้เปรียบเสมือน น้ำสกปรก น้ำที่เป็นพิษต่อจิตวิญญาณของเรา