ข่าวดีสัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต (29 มีนาคม 2020)
ออกจากหลุมเถิด
ก. ความสำคัญ
1. พระวาจาประจำวันอาทิตย์นี้ยืนยันว่า ความตายด้วยความหวังในเรื่องการกลับคืนชีพจะช่วยทำให้เราดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความระมัดระวัง กระตือรือร้นในการทำความดี และหลีกหนีบาปหนักต่าง ๆ
ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1.บทอ่านที่หนึ่ง (อสค 37:12-14) ประกาศกเอเสเคียลเป็นประจักษ์พยานว่าพระเจ้าจะทรงชุบชีวิตของชาวอิสราเอลขึ้นจากหลุมศพจากการเป็นทาสสู่ความเป็นไทแล้วพาเดินทางเข้าสู่แผ่นดินที่ทรงสัญญาให้ ซึ่งเปรียบกับการเดินทางสู่สวรรค์นั้นเอง
2.บทอ่านที่สอง (รม 8:8-11) นักบุญเปาโลสร้างความมั่นใจให้คริสตชนชาวโรมในยุคนั้นที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย โดยการถูกเบียดเบียนทรมาน และเราเองที่ต้องดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมแห่งความตายว่าพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน พระผู้ทรงยกพระเยซูเจ้าให้พ้นจากความตายและประทับอยู่ท่ามกลางเรา จะทรงยกร่างกายที่ตายได้ของเราให้กลับเป็นร่างกายที่มีชีวิตในวันสุดท้ายของโลก นักบุญเปาโลเชื่อว่าการกลับคืนชีพของพระเยซูเป็นรากฐานสำหรับความหวังในการมีส่วนร่วมในการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า
3. พระวรสาร (ยน 11:3-7,17,20-27,33ข-45) วันนี้นักบุญยอห์นเล่าเรื่องพระเยซูทรงปลุกลาซารัสให้ฟื้นคืนชีวิต ซึ่งเรื่องนี้เป็นเครื่องหมายสุดท้ายและยิ่งใหญ่ถึงเรื่องการกลับฟื้นคืนชีพของพระเยซูเจ้า ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือความตาย และพระศาสนจักรเองได้ยืนยันว่าพวกเราด้วยเช่นกัน เราจะกลับคืนชีพเข้าสู่ชีวิตนิรันดร หลังจากที่เราได้ทำสงครามกับบาปต่างๆ ในโลกนี้
ค.ปฏิบัติ
1. “เคลื่อนหินออก..จงเอาผ้าออกแล้วปล่อยเขาไปเถิด” นี่เป็นคำสั่งของพระเยซูเจ้าที่มีความหมายต่อชีวิตของเราแต่ละคนด้วย เรามักจะผูกมัดตัวเองด้วยนิสัยที่ไม่ดีต่างๆ เช่นการกินการดื่ม การหมกมุ่นในเรื่องเพศ การนินทาว่าร้าย การอิจฉา ความเกียจชัง การไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเราเอง และเราฝังตัวเองอยู่ในหลุมศพแห่งความหมดหวัง ความท้อแท้ใจ บางครั้งเราอยู่ในหลุมแห่งการเห็นแก่ตัว หรือจมอยู่ในความรู้สึกในแง่ลบ เช่น ความห่วงกังวล ความทุกข์ใจ ความกลัว ความไม่พอใจ ความเกียจชังและความผิดต่างๆ ถ้าเราต้องการให้พระเยซูเจ้ามาปล่อยปล่อยเรา ให้เราวอนขอพระองค์ในพิธีมิสซาฯนี้ให้ทรงนำแสงสว่างและพระพลังของพระจิตเจ้าเข้ามาในชีวิตของเราและปลดปล่อยเราจากบาปต่างๆ เหล่านั้น ให้พระองค์เคลื่อนหินออกจากจิตใจอันมืดบอดของเรา
2. “เตรียมเผชิญความตาย” เราต้องพร้อมที่จะต้อนรับความตายอยู่เสมอ เรามีชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยความตาย เราฆ่ากันและกันด้วยการฆาตกรรม การทำแท้ง การทารุณ สงคราม และปัจจุบันด้วยโรคบาด เราฆ่าตัวเราด้วยการฆ่าตัวตาย ยาเสพติด การกินการดื่มที่เกินขนาด ฯลฯ คำถามสำคัญคือ “ฉันพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายหรือไม่” เราทุกคนรู้ตัวว่าสักวันหนึ่งเราก็จะต้องตาย แต่เราบางคนยังคิดโง่ๆว่าเราจะยังไม่ตายในเวลาอันใกล้นี้ ขอให้เราเป็นคนที่ฉลาด เตรียมพร้อมที่จะไปพบองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์เมื่อเวลานั้นมาถึงและยื่นบัญชีชีวิตที่สะอาดหมดจดให้พระเจ้าได้ตรวจสอบและพร้อมที่จะรับรางวัลเป็นความสุขนิรันดร์ในเมืองสวรรค์