"พูดแล้วทำ"
ข่าวดีสัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา
(วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2020)
ก.ความสำคัญ
1. พระวาจาของพระเจ้าประจำอาทิตย์นี้เตือนเราว่า คำพูดของเรานั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ของเรา ไม่ว่าจะในครอบครัว หรือที่ทำงาน หรือระหว่างเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อง เมื่อเราไม่รักษาคำพูดแม้แต่ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ความน่าเชื่อถือของเรา คุณค่าในตัวของเราก็จะหมดไป เหมือนกับลูกคนที่สองที่รับปากกับพ่อของเขาที่ขอให้ไปช่วยงานที่สวน เขารีบตอบว่า “ครับพ่อ” แต่ต่อมาก็ไม่ไป เขาตอบรับเพราะต้องการเอาใจ แต่ไม่ได้จริงใจ ส่วนลูกคนแรกตอบปฏิเสธแต่ต่อมาได้คิดไตร่ตรองและตัดสินใจไปช่วยพ่อทำงานในสวน ลูกสองคนนี้ใครน่าเชื่อถือและรักพ่อมากกว่ากัน (อ่าน มัทธิว 21:28-32)
ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1.บทอ่านที่หนึ่ง (อสค. 18:25-28) ประกาศกเอเสเคียล (อาจจะเขียนขึ้นระหว่างปี ก.ค.ศ. 593 และ 565 ระหว่างที่ชาวยิวตกเป็นเชลยในบาบิโลน) พูดเตือนชาวอิสราเอลที่เปลี่ยนใจไม่ปฏิบัติตามความชอบธรรม หันไปทำผิด ทำชั่วร้ายต่าง ๆ นานา ท่านได้เตือนให้หันกลับมาทำตามความยุติธรรม และจะมีชีวิตนิรันดร 1.บทอ่านที่หนึ่ง (อสค. 18:25-28) ประกาศกเอเสเคียล (อาจจะเขียนขึ้นระหว่างปี ก.ค.ศ. 593 และ 565 ระหว่างที่ชาวยิวตกเป็นเชลยในบาบิโลน) พูดเตือนชาวอิสราเอลที่เปลี่ยนใจไม่ปฏิบัติตามความชอบธรรม หันไปทำผิด ทำชั่วร้ายต่าง ๆ นานา ท่านได้เตือนให้หันกลับมาทำตามความยุติธรรม และจะมีชีวิตนิรันดร
2.บทอ่านที่สอง (ฟป. 2:1-11) นักบุญเปาโลเน้นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว โดยให้ยึดแบบอย่างของพระเยซูเจ้า
3.พระวรสาร (มธ. 21:28-32) พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เห็นถึงความจริงใจในการรับใช้พระเจ้าและการช่วยเหลือเพื่อนพี่น้อง โดยยกตัวอย่างพ่อที่ต้องการความช่วยเหลือจากลูกสองคน คนแรกปฏิเสธแต่เมื่อได้พิจารณาไตร่ตรองจึงได้เปลี่ยนใจไปช่วยพ่อทำงานในสวน เมื่อลูกคนแรกปฏิเสธจึงไปขอความช่วยเหลือจากลูกคนที่สอง เขาตอบรับทันทีแต่ต่อมาก็ไปได้ทำตามที่รับปากกับพ่อ เขาไม่รักษาคำพูด เขาไม่จริงใจ พระเยซูทรงท้าทายว่าใครล่ะที่เป็นคนชอบธรรมที่แท้จริง ลูกคนแรกอาจจะเป็นคนที่ดูภายนอกว่าเป็นคนไม่ดี เช่น คนเก็บภาษีหรือโสเภณี คนไม่มีศาสนา คนละเมิดกฎหมาย ฯลฯ แต่ที่สุดพวกเขากลับมาเป็นคนดี ส่วนลูกคนที่สอง ดูภายนอกอาจจะดูดี แต่แท้จริงแล้ว กลับเป็นคนที่ไม่ดีจริงก็ได้
ค.ปฏิบัติ
1. “คิดก่อนพูด” ก่อนที่จะรับปากหรือปฏิเสธใครให้ใช้เวลาคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน รับฟังและหาข้อมูลให้รอบคอบ
2. “พูดแล้วทำ” ทำตามที่พูดไว้ ถ้าพูดแล้วต่อมามีข้อมูลใหม่ ให้กล้าที่จะยอมรับผิด ขอโทษแล้วเปลี่ยนการตัดสินใจ ด้วยความสุภาพ
3. “ช่วยพระเจ้าทำงานในสวน” พระเจ้าทรงต้องการให้เราช่วยงานเสริมสร้างพระอาณาจักรของพระองค์ในโลกนี้ ดังนั้นนอกเหนือจากความสัมพันธ์ในท่ามกลางเพื่อนมนุษย์แล้ว การรับปากช่วยเหลือพระเจ้าจึงเป็นเรืองสำคัญของการเป็นศิษย์พระคริสต์ คือ การช่วยกันประกาศข่าวดีของพระเจ้า นำความรักของพระเจ้าไปมอบให้กับทุกคนที่เราพบเจอ