"อาทิตย์สีชมพู"
ข่าวดีสัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต
วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2021
ก.ความสำคัญ
เราเข้าสู่อาทิตย์ที่ 4 ของเทศกาลมหาพรต อาทิตย์นี้เราเรียกว่า “วันอาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี” ซึ่งเป็นถ้อยคำแรกของพิธีกรรมในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันแห่งความยินดีในเทศกาลมหาพรต พระสงฆ์จึงสวมอาภรณ์สีชมพู (สีกุหลาบ) แทนสีม่วง และบนพระแท่นจะประดับดอกไม้ที่สวยงามเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดีก่อนที่จะเฉลิมฉลองการกลับฟื้นคืนชีพของพระเยซูเจ้า
สาระสำคัญของบทอ่านในวันนี้คือ ความรอดพ้นจากบาปของเราคือของขวัญที่พระเจ้าประทานให้เราด้วยพระเมตตาอย่างแท้จริง เป็นความรอดพ้นโดยผ่านทางชีวิตและความตายของพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ บทอ่านยืนยันถึงพระเมตตาและความเห็นอกเห็นใจขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเตือนใจเราถึงความรัก ความเมตตา และพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมอบให้เราโยผ่านทางพระเยซูคริสต์
ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1.บทอ่านที่หนึ่ง (2 พศด. 36:14-16,19-23) เราได้เรียนรู้ถึงความเห็นอกเห็นใจและความเพียรทนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเลือกกษัตริย์ไซรัส กษัตริย์ของคนต่างชาติเป็นเครื่องมือของพระองค์ในการแสดงพระเมตตากรุณาของพระองค์ ทรงนำพวกเขากลับจากการเป็นทาสและสร้างพระวิหารหลังใหม่ให้พวกเขา
2. บทอ่านที่สอง (อฟ. 2:4-10) นักบุญเปาโลบอกเราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงร่ำรวยในความเมตตากรุณา พระองค์ประทานความรอดพ้นจากบาปและชีวิตนิรันดรให้เราโดยผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้า
3. พระวรสาร (ยน. 3:14-21) พระเยซูเจ้าทรงสอนโดยการเปรียบเทียบ ทรงยกระดับเรื่องในอดีตให้สูงขึ้น ทรงสอนว่าพระเยซูเจ้า ผู้ทรงพระบุตรของพระเจ้าทรงเป็นผู้แทนของพระเจ้าในการนำความรอดพ้นมาให้มวลมนุษย์ ความรอดนี้ไม่เพียงแต่คนบาปในชาติหนึ่งชาติใดเท่านั้น แต่สำหรับคนบาปทุกชาติทุกภาษา ทั่วทั้งโลก ในยอห์น 3:16 สอนเราว่าพระเจ้าทรงแสดงความรักเมตตา ความเห็นอกเห็นใจเรามนุษย์โดยมอบพระบุตรเพื่อไถ่โทษบาปของเรา นิโคเดมัส ฟารีสีผู้มั่งคั่งและสมาชิกสภาสูงได้มาพบพระเยซุในตอนกลางคืนเพื่อสนทนาธรรมกับพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงอธิบายให้ขังว่าเขาจะต้องเชื่อพระวาจาของพระเยซูเจ้าเพราะพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า และได้ทรงอ้างอิงเรื่องโมเสสและรูปงูทองแดงเพื่ออธิบายแผนการแห่งความรอดของพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงช่วยผู้เคราะห์ร้ายที่โดนงูกัดใด้พ้นจากความตายโดยเพียงการมองรูปงูทองแดงที่โมเสสยกขึ้น พระองค์ก็จะทรงช่วยมนุษย์ชาติจากบาปโดยการเข้าพึ่งพาอาศัยไม้กางเขนและความตายของพระเยซูพระบุตรของพระองค์ ทั้งนี้เพราะความรักยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อมนุษย์นั้นเอง
ค.ปฏิบัติ
1. “รักไม้กางเขนให้มากขึ้น” เราต้องรักไม้กางเขนเพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความให้อภัย และความเสียสละยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ความตายบนไม้กางเขนยังเป็นราคาที่พระเยซูทรงจ่ายเพื่อไถ่บาปของเรา กางเขนเชิญชวนเราให้ช่วยกันไถ่ถอนความทุกข์ยากลำบากของผู้อื่นด้วย เราไม่เพียงแค่ร้องไห้สงสารผู้ที่ทุกข์ยากเท่านั้น แต่ต้องพยายามหาทางช่วยเหลือให้เขาพ้นทุกข์นั้นด้วย ดังนั้นให้เรารักไม้กางเขน สวมใส่ไม้กางเขน และแบกกางเขนในชีวิตประจำวันของเราของเราด้วยความยินดี
2. “รักผู้อื่นมากขึ้น” เราต้องเป็นตัวแทนของพระเจ้าในการแสดงความรักต่อผู้อื่น ความรักของพระเจ้าไม่มีเงื่อนไข ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
3. “นำผู้อื่นมาพึ่งไม้กางเขนมากขึ้น” ทุกคนล้วนเป็นคนบาปและต้องการการไถ่บาป มีเพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้น ที่ไถ่โทษบาปให้เราได้ การเข้าพึ่งพาพระองค์ทำให้เรามีชีวิตใหม่ รอดตายเหมือนชาวอิสราเอลที่มองรูปงูแล้วรอดจากพิษร้ายได้