"พระเมตตายิ่งใหญ่"
ข่าวดีวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา (C)
หรือ วันอาทิตย์ฉลองพระเมตตา
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2022
ก. ความสำคัญ
1. วันอาทิตย์นี้เป็นวันฉลองพระเมตตาของพระเจ้า ซึ่งทำให้เราเกิดความหวัง ความไว้วางใจ ความเชื่อ และการให้อภัยบาปของพระเจ้า บทภาวนาเริ่มพิธีในวันนี้กล่าวถึงพระบิดาเจ้าในฐานะ “พระเจ้าแห่งความเมตตานิรันดร์” ในบทสดุดี (สดด.118) เราได้ภาวนาว่า “ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิจ” ซ้ำถึงสามครั้ง พระเจ้าทรงเผยแสดงพระเมตตาของพระองค์ ลำดับแรกและสำคัญที่สุดก็คือ การส่งพระบุตรแต่องค์เดียวให้เสด็จลงมาเป็นพระผู้ไถ่และองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยผ่านทางความทุกข์ทรมาน ความตายและการกลับฟื้นคืนชีพ พระเมตตาของพระเจ้าหรือความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า จะไหลหลั่งลงมาสู่ตัวของเราแต่ละคนทุกครั้งที่เราได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศีลอภัยบาป
ข.พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง (กจ. 5:12-16) เตือนใจเราให้ทราบว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกลับฟื้นคืนชีพยังคงแสดงพระเมตตาของพระองค์แก่คนเจ็บป่วยโดยการบำบัดรักษาและการเทศนาสั่งสอนของบรรดาอัครสาวกในสมัยเริ่มแรก ความเชื่อศรัทธาของอัครสาวกทำให้พวกเขาสามารถนำความรักและการเยี่ยวยาไปให้บรรดาผู้เจ็บป่วย แม้แต่เงาของพวกท่านยังคงช่วยให้คนเจ็บป่วยกลับเป็นปกติได้
2. บทอ่านที่สอง (วว. 1:9-11ก, 12-13, 17-19) น.ยอห์นอัครสาวกขณะอยู่บนเกาะปัทมอสท่านได้รับนิมิตจากพระเยซูให้ท่านได้เขียนจดหมายเพื่อให้กำลังใจพี่น้องคริสตชนให้มั่นคงในความเชื่อ โดยยืนยันว่า พระองค์จะทรงอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอให้ไว้วางใจและมีความหวัง “อย่ากลัว..เรามีชีวิตอยู่นิรันดร”
3. พระวรสาร (ยน. 20:19-31) บทอ่านนี้เตือนเราให้ระลึกว่าพระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาป ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา พระเยซูผู้ทรงกลับฟื้นคืนชีพทรงมอบอำนาจการให้อภัยบาปแก่บรรดาอัครสาวกให้เป็นผู้สืบทอดต่อจากพระองค์ด้วยคำพูดที่ว่า “ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยน. 20:19-23) ในบทนี้ยังได้เล่าเรื่องของ น.โทมัสที่ได้ชื่อว่าเป็นอัครสาวกผู้สงสัย ท่านเองหลังจากได้พบพระเยซูเจ้าเป็นการส่วนตัว จึงได้สารภาพว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็น“องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าเมตตาสานุศิษย์ที่ขี้สงสัยและเน้นย้ำถึงความสำคัญของความเชื่อ
ค. ปฏิบัติ
1.“ให้เราเฉลิมฉลองและมีเมตตา” วิธีหนึ่งที่พระศาสนจักรฉลองพระเมตตาของพระเจ้าตลอดทั้งปีก็คือการเข้ารับศีลอภัยบาป การหาเวลาเพื่อการเฝ้าศีลมหาสนิทหรือการรับพรจากการอวยพรศีลมหาสนิทก็เป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อรับพระเมตตาและขอบพระคุณพระเมตตาของพระเจ้าและการทำกิจเมตตาทั้งฝ่ายร่างกายและจิตใจในชีวิตประจำวันเป็นการเตรียมพร้อมที่จะรับการพิพากษาครั้งสุดท้าย
2.“ให้เราภาวนาวอนขอความเชื่อ” เพื่อที่จะทำให้เรามอบกายถวายชีวิตแด่พระเจ้าเพื่อให้พระองค์ทรงนำเราให้ออกไปรับใช้ช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องที่เราได้พบด้วยความรัก การดำเนินชีวิตในความเชื่อโน้มนำเราให้มองเห็นพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพในตัวของเพื่อน ๆ ทุกคนและให้เราเต็มใจที่จะให้บริการผู้อื่นด้วยความรัก ปิตาจารย์ฝ่ายจิต
ได้ให้คำแนะนำเพื่อการเจริญชีวิตและมีความเชื่อเช่นเดียวกับ น.โทมัส อัครสาวกดังนี้
(1) ลำดับแรก เราต้องรู้จักพระเยซูเจ้าเป็นการส่วนตัว และเลียนแบบการดำเนินชีวิตของพระองค์ในชีวิตประจำวันโดยการอ่านและไตร่ตรองพระคัมภีร์
(2) จากนั้นให้เราบำรุงความเชื่อของเราให้เข้มแข็งโดยการภาวนาทั้งส่วนตัวและส่วนรวม
(3) เราต้องเข้ามีส่วนร่วมในชีวิตของพระเยซูเจ้าด้วยการรับศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิทบ่อย ๆ น.เทเรซาแห่งกัลกัตตาสอนเราว่า “ถ้าเราภาวนาเราจะมีความเชื่อ ถ้าเราเชื่อ เราจะมีความรัก ถ้าเรารัก เราจะรับใช้ช่วยเหลือ” เพื่อจะเป็นเช่นนี้ได้ เราต้องนำความรักไปสู่การปฏิบัติจริงในชีวิต