"ซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญา"
ข่าวดี สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา(B)
วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024
ก. ความสำคัญ
1. บทอ่านวันอาทิตย์นี้เน้นเรื่องสายสัมพันธ์แห่งความรักของชายและหญิงที่พระเจ้าทรงมุ่งหวังให้เป็นนิจนิรันดร บทอ่านยังท้าทายสามีและภรรยาให้ซื่อสัตย์และให้เกียรติพระเจ้าด้วยการถือซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้แก่กันและกันต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าในพิธีสมรส
ข. พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง (ปฐก. 2:18-24) จากหนังสือปฐมกาลได้เผยแสดงถึงแผนการเริ่มแรกของพระเจ้าในเรื่องของเพศและการแต่งงาน ซึ่งสอนว่าพระเจ้าทรงสร้างชายและหญิงมาเพื่อกันและกัน ดังนั้นในการแต่งงานจึงไม่ได้เป็นเรื่องของตัวใครตัวมันแต่เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันเสื่อมสลาย หรือไม่มีวันแยกจากกัน บทอ่านยังได้พูดถึงการจัดตั้งการแต่งงานและการแต่งงานที่เป็นแบบสามีภรรยาเดียว (monogamy) ตั้งแต่เริ่มแรก
2. บทสดุดี (สดด. 128) พูดถึงสามีภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ชีวิตย่อมบังเกิดผล และมีชีวิตที่ยืนยาวจนเห็นหลานเห็นเหลน
3. บทอ่านที่สอง (ฮบ. 2:9-11) บทจดหมายถึงชาวฮีบรูเตือนใจเราว่าพระเยซูทรงเป็นหนึ่งเดียวกับเรา ทรงลดฐานะจากพระเจ้าลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อนำมนุษย์ให้รอดพ้นจากโทษร้ายของบาป ทรงไม่อายที่จะเรียกเราว่าเป็นพี่น้องของพระองค์ ดังนั้นไม่ว่าคนดี คนไม่ดี คนที่หย่าร้าง คนที่เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด ล้วนแต่เป็นพี่น้องที่พระองค์จะต้องพาไปสู่ความรอดพ้นให้ได้
4. พระวรสาร (มก. 10:2-16) วันนี้เราได้รับฟังคำสอนของพระเยซูคริสต์ในเรื่องการแต่งงานและการหย่าร้าง สำหรับพระเจ้าแล้วการแต่งงานหรือชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์และหย่าร้างไม่ได้ นี้เป็นเรื่องยากที่จะพูดกับคนในสังคมปัจจุบันที่มีสถิติการหย่าร้างเพิ่มขึ้นทุกวัน รวมถึงบุคคลที่เมินเฉยต่อผลร้ายที่ตามมาของการหย่าร้าง สามีและภรรยามีสิทธิที่เท่าเทียมกันในการเสริมสร้างสายสัมพันธ์แห่งการแต่งงานให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ค. ปฏิบัติ
1. คู่สามีภรรยาจะต้อง “จริงจัง” ในการสร้างชีวิตครอบครัวให้ดีที่สุด การแต่งงานเรียกร้อง ให้ทั้งคู่เป็นบุคคลที่ “ใช่” สำหรับกันและกัน สายสัมพันธ์แห่งการแต่งงานมีรากฐานอยู่ที่ (1) “การอุทิศตน” ให้แก่กันและกัน มีการแบ่งปัน การให้มีส่วนร่วม การเสียสละ การยกโทษให้กัน และความรักอย่างไม่เห็นแก่ตัว (2) เรียกร้องการ “ปรับตัว” เพิ่มความใจกว้างและความปรารถนาดีแก่กันและกันที่จะให้อภัยและขอการให้อภัยจากกัน ร่วมมือกันอย่างจริงใจในการให้การอบรมเลี้ยงดูลูกและเสริมสร้างความศรัทธาให้ลูกได้ปฏิบัติตนเป็นคริสตชนที่ดี และบำรุงหล่อเลี้ยงความเชื่อด้วยการภาวนาพร้อมกันในครอบครัว การอ่านพระคัมภีร์ และเป็นต้นการร่วมพิธีมิสซาในวันอาทิตย์อย่างสม่ำเสมอ
2. เราจำเป็นต้องให้ “ความเห็นอกเห็นใจ” พี่น้องที่หย่าร้างหรือมีความยากลำบากในชีวิตครอบครัว ให้ความเคารพ ให้ความรัก หาทางแก้ไข หรือหาวิธีที่เหมาะสมแบ่งเบาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น พระศาสนจักรมีวิธีการที่จะเยียวยาคู่แต่งงานที่หย่าร้าง ส่วนเราสามารถให้คำแนะนำบุคคลที่ผิดพลาดไปให้สวดภาวนา อ่านพระคัมภีร์ นำลูกมาวัด ร่วมพิธีมิสซา เพื่อเป็นการปลูกฝังความเชื่อศรัทธาให้พวกเขา และเพื่อวอนขอพระพรเพื่อการดำเนินชีวิตครอบครัวที่ถูกต้องต่อไป (เทียบ คำสอนพระศาสนจักรฯ ข้อ 1651)