การสร้างทีมงานตามรูปแบบของพระเยซู
การสร้างทีมงานเพื่อจะทำงานด้วยกันนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกองค์กร ในการหาสรรหาและการทำงานเป็นทีมนั้น เรามีแบบฉบับที่ดีจากองค์พระเยซูเจ้าเองที่ทรงเลือกอัครสาวกเข้ามาเป็นทีมงานของพระองค์
ให้เราอ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ “พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปบนภูเขา ทรงเรียกผู้ที่พระองค์ทรงต้องการให้มาพบ เขาเหล่านั้นก็มาเฝ้าพระองค์ พระองค์จึงทรงแต่งตั้งอัครสาวกสิบสองคนให้อยู่กับพระองค์ และเพื่อจะทรงส่งเขาออกไปเทศน์สอน โดยให้มีอำนาจขับไล่ปีศาจด้วย” (มก.3:13-15)
1. ก่อนที่พระเยซูเจ้าจะทรงเลือกทีมงานของพระองค์นั้นพระองค์ทรงขอคำแนะนำจากพระบิดาเจ้าสวรรค์ด้วย “การภาวนา” - ผู้นำหลายคนที่มองข้ามเรื่องการภาวนาขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับการเลือกหรือการหาบุคคลากรมาร่วมงาน เขาอาจจะมุ่งตรงไปยังบุคคลที่คิดเขาคิดว่ามีคุณสมบัติหรือความสามารถที่ตรงใจเขา หรือเข้ากับเขาได้เท่านั้น การภาวนาต้องมาก่อนแล้วปัญหาต่างๆจะน้อยลง
2. พระเยซูเจ้าทรงเรียกและเลือกผู้ที่พระองค์ทรงต้องการด้วยตัวของพระองค์เอง – เริ่มจากอัครสาวกสี่คนแรก พระองค์ทรงดำเนินไปชายฝั่งทะเล ทรงเรียกเปโตรกับอันดรูว์ แล้วก็เรียกยากอบและยอห์น ทรงเลือกมัทธิวที่ด่านเก็บภาษี พระองค์ทรงมองเห็นศักยภาพของบุคคลที่พระองค์ทรงเลือกและทรงพัฒนาพวกเขา และบุคคลที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกและเลือกนั้น เป็นบุคคลที่พระองค์ทรงเห็นว่าเหมาะสมและพวกเขาก็มีใจให้กับพระองค์ด้วย การเข้าหาเพื่อเชิญชวนมาร่วมงานเป็นการให้เกียรติ และทำให้การร่วมงานเป็นการทำด้วยความเต็มใจ
3. พระเยซูเจ้าทรงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน – พระเยซูเจ้าทรงเรียกอัครสาวกให้มาอยู่ร่วมกัน อยู่แบบร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ไปไหนไปด้วย อิ่มหรือหิวด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ให้ความไว้วางใจต่อกันและกัน เป็นความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว เข้าหาได้ ปรึกษาได้ มีกิจกรรมอื่นๆที่นอกจากหน้าที่การงานให้กระทำร่วมกัน
4. พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้นำในลักษณะของการให้ส่งเสริมสนับสนุนไม่ใช่ควบคุมหรือสั่งการ – เมื่อพระองค์มอบหมายงานให้ใคร พระองค์มิได้ทรงกดดันหรือควบคุม แต่พระองค์ทรงให้คำแนะนำสั่งสอน ให้อิสระในการทำงาน ถ้าทำไม่ได้ให้กลับมาสอบถาม พระองค์ทรงสร้างบุคลากรของพระองค์โดยให้พวกเขาได้คิดได้ด้วยตนเอง ทำได้แม้พระองค์จะไม่ได้อยู่ด้วย บรรดาอัครสาวกไม่รู้สึกอึดอัด การให้การส่งเสริมและสนับสนุนทำให้ทุกคนทำงานด้วยใจและด้วยความทุ่มเท ยอมทำงานนอกเวลาหรือเกินหน้าที่รับผิดชอบอีกด้วย
5. พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจให้เขา – พระเยซูเจ้าไม่ได้ทรงเป็นบุคคลที่ห่วงอำนาจ หรือนึกว่าตนเองเท่านั้นที่ทำได้ แต่ทรงเปิดโอกาสและให้สิทธิอำนาจแก่อัครสาวกของพระองค์ เช่น การให้มีส่วนในการตัดสินใจ พระองค์ทรงเน้นการสร้างคนเพื่อทำงาน และทรงสอนให้ใช้อำนาจเพื่อการรับใช้
6. พระเยซูเจ้าทรงพัฒนาทีมงานด้วยการสอนด้วยคำพูดและการกระทำให้เป็นแบบอย่าง – เรื่องที่สาวกไม่เข้าใจ พระองค์ก็ทรงให้คำอธิบาย หรือบางเรื่องพระองค์ทรงให้คำสั่งสอน แต่สิ่งที่สำคัญพระองค์ทรงสอนและกระทำ ทรงพูดและทรงกระทำตามสิ่งที่พูด