ข. พระคัมภีร์และคำสอน
1. บทอ่านที่หนึ่ง (กดว 11:25-29)
เราพบว่าความอิจฉาหรือรู้สึกความทุกข์ใจเมื่อเห็นคนอื่นได้ดีในระหว่างบุคคลที่รับใช้พระเจ้าด้วยกัน แม้แต่โยชูอาผู้ช่วยและและผู้สืบทอดงานของโมเสสเองยังไปฟ้องโมเสสให้ไปห้ามผู้อาวุโสสองคนที่ไม่ได้อยู่ในกระโจมนัดพบพร้อมๆกับคนอื่นๆ แต่ทั้งสองกลับได้รับพระพรจากพระจิตในการพูดเหมือนประกาศกเหมือนกับพวกเขา แต่โมเสสได้ตำหนิเขาอย่างรุนแรง
2. บทสดุดี (สดด 19)
“ธรรมบัญญัติของพระเจ้าให้ความชื่นบานแก่จิตวิญญาณ” เตือนใจเราว่าความเคารพต่อบทบัญญัติจะนำเราให้ใกล้ชิดพระเจ้าและจะทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง
3. บทอ่านที่สอง (ยก 5:1-6)
น.ยากอบตักเตือนคนร่ำรวยที่ใช้ชีวิตอย่างไม่เหมาะสม ไม่มีความยุติธรรมต่อสังคม ไม่จ้างค่าจ้างแรงงานตามที่กำหนด เอารัดเอาเปรียบ ฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ กินเลี้ยงหรูหราฟุ่มเฟือย
4. พระวรสาร (มก 9:38-43, 45, 47-48)
เราพบความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของศิษย์พระคริสต์ โดย น.ยอห์นบ่นกับพระเยซูเจ้าว่าทำไมคนภายนอกจึงขับไล่ผีในพระนามของพระเยซูเจ้าได้ และพยายามที่จะให้พระองค์ห้ามไม่ให้คนอื่นทำหน้าที่นี้ แต่พระเยซูเจ้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขาและได้สอนเขาหลายประการ เป็นต้น เรื่องของการกระทำสิ่งที่ดีแม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยพระเจ้าก็จะประทานรางวัลให้ ตรงกันข้ามใครทำไม่ได้ก็ย่อมถูกลงโทษ
ค. ปฏิบัติ
1. “จงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม” เป็นที่สะดุดต่อผู้อื่น เช่น (1) เมื่อเราใจแคบหรือไม่ยุติธรรม (2) เมื่อเราทำลายชื่อเสียงหรือภาพพจน์ของคนอื่น (3) เมื่อเราปฏิเสธ ไม่ยอมรับ หรือเมินเฉยผู้อื่น (4) เมื่อเราดูถูกความสามารถของผู้อื่น
2. “มีความเพียรทน” ให้เรามีความเพียรทนต่อความอ่อนแอ และความบกพร่องของผู้อื่น โดย (1) ยังคงซื่อสัตย์ต่อความถูกต้องตามมโนธรรมและความเชื่อของตน (2) เคารพในความแตกต่างของกันและกัน (3) ร่วมงานกันในงานที่มีความสนใจร่วมกัน (4) โน้มนำเอาคำสอนของพระคริสต์มาปฏิบัติทั้งด้วยคำพูดและกิจการ