ข. พระคัมภีร์และคำสอน
บทอ่านที่หนึ่ง ประกาศกเอเสเคียลบอกเราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่งพระผู้ไถ่และพระแมสสียาห์ลงมาในเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด ซึ่งตรงกันข้ามกับคำเทศนาเปรียบเทียบเรื่องเมล็ดซีนาปีสในพระวรสาร เอเสเคียลเห็นว่าพระผู้ไถ่จะบังเกิดมาจากตระกูลของกษัตริย์
บทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลสอนคริสตชนชาวโคริทธ์ว่าพวกเขาจะต้องก้าวหน้าในการเจริญเติบโตของพระอาจักรของพระเจ้า และให้พระเจ้าเข้าปกครองชีวิตของพวกเขาโดยการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์เพื่อพวกเขาจะได้รับรางวัลจากการพิพากษาครั้งสุดท้ายของเจ้า
พระวรสาร พระเยซูทรงเปรียบเทียบการเติบโตของพระอาณาจักรของพระเจ้า หรือการปกครองของพระเจ้าในหัวใจของมนุษย์หรือพระศาสนจักรว่าจะเป็นไปเหมือนเมล็ดมัสตาร์ดที่เริ่มจากเล็กๆแล้วค่อยๆเติบใหญ่จนบังเกิดผล โดยอาศัยพระจิตพระผู้ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตและอาศัยความร่วมมือของเรากับพระหรรษทานหรือความช่วยเหลือของพระองค์
ค. ปฏิบัติ
“เราต้องร่วมมือกัน” เพื่อทำให้พระอาณาจักรของพระเจ้าเติบโตขึ้น คือการช่วยกันทำให้ผู้คนน้อมรับพระเจ้าเข้าไว้ในจิตใจ และดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ให้เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อเติบโตขึ้นอย่างเงียบๆและมั่นคง โดยพลังของพระจิตทั้งด้วยการภาวนาวอนขอ การอ่านพระคัมภีร์ การร่วมมิสซา การเข้ารับศีลศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้นการนำเอาพระวาจาของพระเจ้าไปใช้ในชีวิตประจำวัน
“เราต้องไม่ท้อถอย” เพราะการยอมรับพระเจ้าเข้าปกครองจิตใจของคนเรานั้นเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ จึงมีอันตรายที่จะทำให้ผู้อภิบาล ผู้แพร่ธรรม ครูคำสอน พ่อแม่ พ่อแม่ทูลหัว ผู้ให้การอบรมเกิดความท้อแท้หรือหมดหวัง อย่าลืมว่าทุกคนคือธรรมทูต ทุกคนต้องทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวดี แต่ความสำเร็จเป็นของพระจิตเจ้า เราต้องเป็นผู้ร่วมงานที่สุภาพถ่อมตน เราต้องหว่านต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ