"โดนเหยียดหยาม"
บทเทศน์ สัปดาห์ที่สิบสี่ เทศกาลธรรมดา (8 กรกฎาคม)
(อสค 2:2-5; 2 คร 12:7-10; มก 6:1-6)
ก. ความสำคัญ
1. บทอ่านในวันนี้แนะนำพระเยซูเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นประกาศกและอธิบายว่าบรรดาประกาศกและผู้ที่ ทำงานเพื่อพระเจ้ามักจะต้องได้รับความทุกข์ยากลำบากหรือการปฏิเสธ ดังนั้นบทอ่านในวันนี้จึงท้าทายเราให้มีความเพียรทนและกล้าหาญ ยืนหยัด ที่จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆเหล่านี้และทำหน้าที่ต่อไป
ข. พระคัมภีร์และคำสอน
2. บทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือประกาศกเอเสเคียลบอกเราเกี่ยวกับกระแสเรียกที่พระเจ้าทรงเรียกเขาให้มาเป็นประกาศก พระเจ้าทรงเตือนเอเสเคียลว่าพระองค์จะทรงส่งเขาไปทำงานกับชาวอิสราเอลที่ดื้อด้านและเป็นกบฏที่อพยพอยู่ในกรุงบาบิโลน และในฐานะประกาศกของพระเจ้าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการต่อต้าน ปฏิเสธและการเบียดเบียนต่างๆ บทอ่านนี้เตือนใจเราว่า เราคริสตชนที่ได้ตอบรับการทรงเรียกและติดตามพระเยซูจะต้องเผชิญหน้ากับเมินเฉย การมุ่งร้าย การดูถูก การดูหมิ่น ความอ่อนแอ ความทุกข์ยากและการเบียดเบียน การพูดแดกดันและการขัดแย้งเช่นเดียวกัน
3. บทอ่านที่สอง น.เปาโลได้เตือนเราเช่นเดียวกันจากประสบการณ์ของเขาเองว่าไม่เพียงแต่ประกาศกเท่านั้นที่ถูกเบียดเบียนและปฏิเสธ บรรดาสาวก มิสชันนารี ผู้แพร่ธรรม และศิษย์พระคริสต์ต่างก็ต้องสู้ทนกับความยุ่งยากลำบากในการทำหน้าที่ของตน น.เปาโลสารภาพว่าพระเจ้าทรงให้เขาได้มีส่วนในความทุกข์ทรมานของพระองค์ “ทรงให้มีหนามทิ่มแทงเนื้อหนัง” ของเขาเพื่อให้เขาจะได้จะได้ไม่หลงในตนเองแต่ต้องพึ่งพาพระหรรษทานของพระเจ้า และสรรเสริญพระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ อัครสาวกเชื้อเชิญเราให้มอบความอ่อนแอและความไร้ความสามารถไว้กับพระเจ้า และร่วมมือกับพระหรรษทานหรือความช่วยเหลือจากพระองค์ ในการประกาศข่าวดีของพระองค์ทั้งด้วยแบบอย่างที่ดีและด้วยคำพูดที่เหมาะสมเหมือน น.เปาโลได้กระทำ
4. พระวรสาร จาก น.มาระโกเล่าให้เราฟังว่าคนหมู่บ้านบ้านเดียวกับพระเยซูคือเมืองนาซาเร็ธไม่ยอมรับพระองค์ในฐานะประกาศกเพราะว่าพวกเขารู้จักคุ้นเคยกับพระองค์และครอบครัวของพระองค์อย่างดี พวกเขารู้ว่าพระองค์มาจากครอบครัวของช่างไม้ ไม่ได้ศึกษากฎหมายของโมเสสและคิดว่าพระองค์ไม่มีทางที่จะเป็นพระผู้ไถ่ที่ได้มีพระสัญญาไว้ได้ นอกจากนั้นพวกเขายังโกรธที่พระเยซูเจ้าไม่ทรงทำอัศจรรย์ให้ พระองค์ทรงอดทนในการขาดความเชื่อของพระองค์ และได้เสด็จออกไปเทศนาและบำบัดรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยในหมู่บ้านอื่น
ค. ปฏิบัติ
5. “เพียรทน” บ่อยครั้งที่เพื่อนๆ ครอบครัว หรือคนในชุมชนไม่ยอมรับฟังคำแนะนำ หรือประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้าของเรา ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ความปรารถนาดีของเราทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาคุ้นเคยกับเรา พวกเขาไม่มองเห็นว่าพระเจ้าทรงทำงานในตัวของเรา ทั้งๆที่เราได้รับการเจิมแต่งตั้งให้เป็นประกาศกจากศีลล้างบาปและศีลกำลัง
6. “ยืนหยัด” ในฐานะศิษย์พระคริสต์ที่ต้องยืนหยัดในความดี ความจริง ความยุติธรรมในสังคมของเราด้วยอาศัยพระปรีชาญาณของพระเจ้า พละกำลังจากพระจิต ความกล้าหาญและความรักของพระเยซูเจ้า