2. เมื่อปี 1980 นิตยสารฉบับหนึ่งลงเรื่องที่เหลือเชื่อว่ามีชายคนหนึ่งกลับมาที่รถของเขาที่จอดไว้ห้างสรรสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง เขาพบกระดาษแผ่นหนึ่งติดไว้ที่กระจกหน้ารถ มีข้อความว่า “ถึงท่านเจ้าของรถ...ผมตั้งใจมาขโมยรถของท่าน แต่เมื่อสังเกตเห็นสติกเกอร์คำว่า ‘สันติสุขจงสถิตกับท่าน’ คำนี้ทำให้ผมต้องหยุดและได้คิดว่า ถ้าผมขโมยรถของท่าน ท่านจงไม่มีสันติสุข และในเวลาเดียวกันตัวผมเองก็ไม่มีสันติสุขเช่นเดียวกัน และนี้เป็นการคิดจะขโมยครั้งแรกของผม ดังนั้นขอให้สันติสุขจึงสถิตกับท่านและกับตัวผมด้วย ขับรถดีๆนะครับ และคราวหน้าอย่าลืมล๊อคประตูรถของท่านด้วย” ลงชื่อ จากคนที่อาจจะเป็นโจรขโมยรถ

ข.พระคัมภีร์และคำสอน    
        1.บทอ่านที่หนึ่ง (อสย66:10-14) ประกาศกอิสยาห์ให้กำลังใจและความหวังชาวอิสราเอลหลังจากที่ได้รับความทุกข์ยากลำบากมาเป็นเวลานาน ภาพเปรียบเทียบที่อบอุ่นคือภาพลูกที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่
        2.บทอ่านที่สอง (กท6:14-18) น.เปาโลแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตว่าแม้ท่านจะต้องมีความทุกข์บากลำบาก แต่จิตใจของท่านแข็งแก่รง เพราะมีพระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน
        3. บทพระวรสาร (ลก 10:1-12,17-20) น.ลูกาเล่าถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงส่งสาวกออกไปประกาศข่าวดีแก่ประชาชนต่างๆ โดยให้เข้าหาและให้พรประชาชน ให้ทำความดีกับทุกคนและทุกสถานที่ โดยให้กระทำหน้าที่ในพระนามของพระเจ้า
        4.สันติสุขในพระคัมภีร์มีสี่ความหมายด้วยกันดังนี้
4.1 สันติสุขในการทหาร คือไม่มีการสู้รบกันระหว่างชาติต่างๆ เรียกว่า “ความสันติสุขของชาติ”
4.2 สันติสุขส่วนบุคคล เป็นการบ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกของบุคคลที่อยู่ในสภาพที่ดีเราเรียกว่า “เรามีสันติสุขในตัวของเราเอง”
4.3 พระคัมภีร์ใช้ในความหมายของศาสนาพื่อบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ถูกต้องระหว่างพระเจ้าและตัวของเราเอง ซึ่งเราเรียกว่า “เรามีสันติสุขกับพระเจ้า”
4.4 สุดท้าย พระคัมภีร์ใช้คำว่าสันติสุขที่บ่งบอกถึงสถานภาพของบุคคลบนพื้นแผ่นดินนี้ที่มีสันติสุขกับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้อง ซึ่งเราเรียกว่า “สันติสุขในพระคริสตเจ้า” และคำนี้แหละที่พระสงฆ์ใช้เตือนใจเราเสมอๆในพิธีมิสซาฯ

ค. ปฏิบัติ              
           1. “ขอบคุณพระเจ้า”เมื่อมีคนมาเยี่ยมบ้านของเรา วัดของเรา ชุมชนของเรา ให้ “การต้อนรับ” ที่อบอุ่น ด้วยความรักที่จริงใจ ในฐานะที่เราเป็นศิษย์ของพระคริสต์ และผู้มาเยือนเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งมาให้เรา
           2. “ออกไปเยื่ยมคนอื่น” ให้เราจัดเวลาเพื่อออกไปนำความรักของพระเจ้าไปมอบให้ผู้อื่น โดยการหาข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวหรือบุคคลที่เราจะไปเยี่ยม ไปให้กำลังและสวดภาวนาให้ตามความประสงค์ของเขา