ก) ฆราวาสทุกคนต้องศึกษาคำสอนคริสตศาสนาเพราะเป็นสิทธิ์และหน้าที่ของฆราวาส
ข) ฆราวาสมีสิทธิ์ศึกษาวิชาศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิชาทางศาสนาจนสามารถได้รับปริญญา วิชาศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระคัมภีร์ เทววิทยา พิธีกรรม กฎหมาย ประวัติศาสตร์พระศาสนจักร ปรัชญา จริยศาสตร์
ค) จุดประสงค์ของการศึกษา เพื่อ
ค.1 เจริญชีวิตให้สอดคล้องกับบัญญัติคำสอน
ค.2 ประกาศพระวรสาร
ค.3 ป้องกันข้อคำสอนที่ผิดๆ
ค.4 ทำงานแพร่ธรรม
ประมวลกฎหมายพระศาสนจักรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของฆราวาส มีดังนี้
8.1.1 กฎหมายพระศาสนจักรมาตรา 217 กล่าวว่า “เนื่องจากคริสตชนได้รับเรียกโดยศีลล้างบาป ให้ดำเนินชีวิตสอดคล้องกับคำสอนของพระวรสาร จึงมีสิทธิ์ที่จะได้รับการศึกษาแบบคริสตชน เพื่อจะได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมอย่งถูกต้อง เพื่อบรรลุถึงวุฒิภาวะของความเป็นบุคคลและในเวลาเดียวกันเพื่อจะรู้และเจริญตามรหัสธรรมแห่งความรอด”
8.1.2 กฎหมายพระศาสนจักรมาตรา 812 กล่าวว่า “ผู้ที่สอนวิชาเทวศาสตร์ในสถาบันการศึกษาขั้นสูงแห่งใดไม่ว่า ต้องได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการจากผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจฝ่ายพระศาสนจักร”
8.1.3 กฎหมายพระศาสนจักรมาตรา 816 วรรค 1 กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยและคณะวิชาของพระศาสนจักร ตั้งขึ้นโดยการก่อตั้งหรือโดยการรับรองของสันตะสำนักเท่านั้น เป็นอำนาจของสันตะสำนักเช่นกันที่จะควบคุมเหนือมหาวิทยาลัยและคณะวิชาดังกล่าว”
8.1.4 กฎหมายพระศาสนจักรมาตรา 253 วรรค 2 กล่าวถึงวิชาศักดิ์สิทธิ์มีดังต่อไปนี้ พระคัมภีร์ เทววิทยา จริยศาสตร์ พิธีกรรม ปรัชญา กฎหมายพระศาสนจักร ประวัติพระศาสนจักร
8.1.5 กฎหมายพระศาสนจักรมาตรา 747 วรรค 1 กล่าวว่า “พระศาสนจักรซึ่งได้รับฝากข้อความเชื่อจากพระคริสตเจ้า เพื่อให้รักษาความจริงที่พระเจ้าไขแสดงไว้ ด้วยศรัทธาเพื่อพิจารณาการศึกษาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและเพื่อประกาศและอธิบายอย่างซื่อสัตย์โดยมีพระจิตเจ้าช่วยเหลือ มีหน้าที่และสิทธิ์โดยกำเนิดที่จะประกาศข่าวดีแก่นานาชาติ ไม่ขึ้นต่ออำนาจใดๆของมนุษย์โดยใช้เครื่องมือสื่อสารทางสังคมอันเหมาะสมกับตนเองด้วย”
8.1.6 กฎหมายพระศาสนจักรมาตรา 811 วรรค 1 กล่าวว่า “ในมหาวิทยาลัยคาทอลิก ผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจฝ่ายพระศาสนจักรต้องเอาใจใส่ให้มีการจัดตั้งคณะเทวศาสตร์หรือสถาบันเทวศาสตร์ หรืออย่างน้อยการบรรยายเทวศาสตร์ เพื่อว่านักศึกษาฆราวาสสามารถเข้ารับฟังบรรยายได้ด้วย”
8.2 การศึกษาของฆราวาสตามคำสอนของสังคายนาวาติกันที่ 2
8.2.1 พระสมณกฤษฎีกาว่าด้วยการแพร่ธรรมของฆราวาส (APOSTOLICAM ACTUOSITATEM) ข้อ 29 ความว่า “โดยที่ฆราวาสมีวิธีของเขาเองสำหรับมีส่วนร่วมในภารกิจของพระศาสนจักร การอบรมฆราวาสสำหรับทำการแพร่ธรรมปรับให้เข้ากับลักษณะทางโลกของสภาพฆราวาส และให้เข้ากับชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณที่เหมาะแก่เขา ถ้ามีการอบรมสำหรับการแพร่ธรรม ก็ต้องเข้าใจว่ามีการอบรมที่สมกับสภาพมนุษย์ให้ตรงกับความสามารถและสภาพชีวิตของแต่ละคนด้วย เพราะถ้ารู้จักโลกปัจจุบันนี้ดีแล้ว ฆราวาสจะต้องเป็นสมาชิกที่เข้าไปอยู่ในหมู่สังคมของตนได้อย่างเหมาะสมและเข้ากับวัฒนธรรมของตนด้วย นอกจากการอบรมทางวิญญาณ ยังต้องมีความรู้คำสอนเป็นอย่างดีเกี่ยวกับเทวศาสตร์ ศีลธรรม และปรัชญา ความรู้ที่กล่าวนี้ต้องเหมาะกับอายุ สภาพชีวิต และความสันทัดของแต่ละคน”